maxmeshop logo
เลิฟมีเทนเดอร์
Admin
เข้าระบบล่าสุด
11 ตุลาคม 2565 เวลา 20.25 น.
ยกเลิก
บันทึก
มีอยู่ที่ร้านค้าแล้วใช่ไหม?
พิมพ์ที่อยู่บนช่องด้านบน

หรือ
เลือกจากแผนที่
ลงทะเบียน
โปรดเลือกประเภทของร้านค้า
บุคคลธรรมดา

หรือ
ข้อกำหนดและเงื่อนไข
เงื่อนไขการให้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop

เงื่อนไขการให้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ของผู้ประกอบการร้านค้านี้ (“เงื่อนไขการให้บริการ”) เป็นข้อตกลงระหว่าง บริษัท แมกซ์ มี คอร์ป จํากัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท” ฝ่ายหนึ่ง กับ “ผู้ประกอบการร้านค้า” อีกฝ่ายหนึ่ง เพื่อใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop

เงื่อนไขการให้บริการนี้จะใช้บังคับกับการให้บริการตรวจสอบบัตรเครดิต (รวมถึงบัตรเดบิต) ("บัตรเครดิต") (ถ้าใช้ประโยชน์ได้) และการให้บริการเรียกเก็บเงินและโอนเงิน ซึ่งต่อไปนี้จะรวมเรียกว่า "บริการ") ให้กับผู้ประกอบการร้านค้า สำหรับการดำเนินการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต และ/หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยลูกค้าผู้ใช้บริการ Max Me Shop สำหรับจำนวนเงิน ("มูลค่าธุรกรรม") ที่ถึงกำหนดชำระให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า สำหรับการซื้อสินค้า บริการ และ/หรือเนื้อหาเกี่ยวกับดิจิตอล ("สินค้าและบริการ") หรือ ("ธุรกรรม") ที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้จำหน่ายบนร้านค้าออนไลน์ หรือร้านค้าออฟไลน์ อันเป็นทรัพย์สินของผู้ประกอบการร้านค้า ("ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" (Platform)”)

ในกรณีที่บริษัทในเครือของบริษัท (“บริษัทในเครือ") เป็นผู้ให้บริการนั้น จะถือว่าเงื่อนไขการให้บริการนี้เป็นสัญญาระหว่างบริษัทในเครือกับผู้ประกอบการร้านค้า และจะถือว่าบริษัทในเครือเป็นคู่สัญญาที่ต้องรับผิดชอบตามข้อกำหนดในการให้บริการภายใต้เงื่อนไขการให้บริการนี้ ในการกล่าวถึง "บริษัท" ในเงื่อนไขการให้บริการนี้ ให้หมายถึงบริษัท หรือบริษัทในเครือ แล้วแต่กรณี

ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบ และตกลงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการนับตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอสมัครใช้บริการกับบริษัทเป็นต้นไป และตกลงที่จะหยุดใช้บริการทันที หากผู้ประกอบการร้านค้าไม่ตกลงตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งนี้ การใช้ หรือจะใช้บริการต่อไป ถือว่าผู้ประกอบการร้านค้ายอมรับและตกลงที่จะผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ ซึ่งรวมถึงการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงใดๆ ของเงื่อนไขการให้บริการที่อาจมีขึ้นในภายหลัง เงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้าสามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.maxme.co.th/T&C.html

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ผู้ประกอบการร้านค้าได้ตกลง และรับทราบเป็นอย่างดีล่วงหน้าแล้วว่า บริษัทไม่ได้ ทำหน้าที่เป็นองค์กรเพื่อให้บริการชำระหนี้ เพียงแต่ให้บริการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ การชำระหนี้ และการโอนเงินทั้งหมดจะต้องดำเนินการโดยสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องหรือธนาคาร ซึ่งบริษัทจะระบุรายละเอียดเป็นครั้งคราว

ผู้ประกอบการร้านค้าต้องอ่าน และทําความเข้าใจเงื่อนไขการให้บริการนี้อย่างละเอียด เนื่องจากเงื่อนไข การให้บริการนี้ได้ระบุถึงสิทธิหน้าที่ของผู้ประกอบการร้านค้า รวมถึงข้อจำกัด และข้อยกเว้นซึ่งมีผลต่อการทำธุรกรรมบนแอปพลิเคชันที่มีลักษณะกระทบต่อสิทธิของผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ใช้บริการ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้บริการแอปพลิเคชันของบริษัท ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถติดต่อสอบถามบริษัทตามช่องทางการติดต่อของบริษัทที่ได้แจ้งไว้โดยทันที

1. ข้อกําหนดทั่วไป

1.1 เงื่อนไขการให้บริการนี้ ถือเป็นสัญญาตามกฎหมายที่มีผลผูกพันระหว่างผู้ประกอบการร้านค้า และบริษัท

1.2 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะปฏิบัติและผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ เมื่อผู้ประกอบการร้านค้า ได้สมัครใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Max Me Shop โดยการเลือก “ยอมรับ” เพื่อยอมรับตกลงตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ และเมื่อผู้ประกอบการร้านค้าได้ดำเนินการดังกล่าวแล้วจะถือว่าผู้ประกอบการร้านค้า ได้รับทราบและรับรู้ถึงเนื้อหาที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และตกลงที่จะผูกพันและปฏิบัติตามกฎระเบียบ และนโยบายใดๆ ที่ได้ประกาศไว้บนแอปพลิเคชันนี้ ตลอดจนเงื่อนไขและนโยบายที่อาจมีการแก้ไขได้เป็นครั้งคราวโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

1.3 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงและรับทราบว่า การใช้บริการใดๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Max Me Shop อาจอยู่ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะเพิ่มเติมใดๆ ที่อาจจะมีการกำหนดขึ้นในภายหน้าภายใต้เงื่อนไขตามข้อ 1.2 ซึ่งการใช้บริการของท่านจะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเพิ่มเติมดังกล่าวด้วย และเงื่อนไขในส่วนที่มีการเพิ่มเติมนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการให้บริการนี้

1.4 บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะปรับปรุง หรือยกเลิกบริการ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของบริการ ไม่ว่าจะเป็นกรณีชั่วคราว หรือตลอดไปได้ในทุกช่วงเวลา โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

2. คำขอ การตรวจสอบ และการเริ่มต้นใช้งาน

2.1 ผู้ประกอบการร้านค้าซึ่งจำหน่ายสินค้าและบริการอันเป็นทรัพย์สินของตนผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" อาจจะสมัครเพื่อขอใช้บริการของบริษัทตามระเบียบที่กำหนดโดยบริษัทเป็นครั้งคราว โดยการสมัครขอใช้บริการที่บริษัทจัดไว้ให้นั้น ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะยอมรับและผูกพันตามเงื่อนไขการให้บริการ

2.2 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องจัดหาข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดตามที่บริษัทต้องการให้กับบริษัท เมื่อสมัครขอใช้บริการที่จัดให้ ซึ่งประกอบด้วย

1) รายละเอียดการระบุตัวผู้แทนของผู้ประกอบการร้านค้า บุคคลที่รับผิดชอบและผู้ประกอบการทางธุรกิจ

2) ขอบเขตและวัตถุประสงค์ของธุรกรรมซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าจะดำเนินการผ่าน "ร้านค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์"

3) ข้อมูลเกี่ยวกับใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับการได้รับอนุมัติตามกฎระเบียบสำหรับการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้า

4) คำอธิบายรายละเอียดของสินค้าและบริการ ที่จำหน่ายหรือปรากฎเป็นรายการบน "ร้านค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์" และ

5) นโยบายภายในของผู้ประกอบการร้านค้าเพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องการฉ้อโกง การฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย รวมถึงนโยบายการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมที่ได้ทำผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" นั้นเป็นธุรกรรมที่แท้จริง กระทำโดยสุจริต และไม่ผิดกฎหมาย หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี

2.3 บริษัทอาจจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งถือว่าจำเป็นในการขอสมัครใช้บริการที่ยื่นโดยผู้ประกอบการร้านค้า ในการนี้ ผู้ประกอบการร้านค้ารับประกัน และรับรองว่าข้อมูลทั้งหมดที่ได้ให้ไว้กับบริษัทนั้น เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งต่อบริษัทในทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ ในข้อมูลที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ให้ไว้กับบริษัท ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่สามารถที่จะแจ้งให้บริษัททราบถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อมูลที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ภายในระยะเวลาอันสมควร หรือข้อมูลที่ผู้ประกอบการร้านค้าให้ไว้ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นความจริง บริษัทอาจจะปฏิเสธคำขอ ระงับ และ/หรือยกเลิกข้อกำหนดทั้งหมดหรือบางส่วนในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการร้านค้า โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

2.4 บริษัทมีดุลยพินิจเด็ดขาดแต่ผู้เดียวในการพิจารณาว่าจะอนุมัติคำขอที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ยื่นขอสมัครใช้บริการของบริษัทหรือไม่ก็ได้ และไม่มีหน้าที่ที่จะเปิดเผยกระบวนการในการพิจารณาคำขอแก่ผู้ยื่นคำขอใดๆ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในการสูญหายหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากการที่ผู้ยื่นคำขอไม่ผ่านกระบวนการพิจารณา

2.5 ผู้ประกอบการร้านค้าจะสร้างบัญชีของตนเอง ("บัญชีใช้บริการ") และรหัสผ่านสำหรับการใช้บริการ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะสามารถเริ่มต้นใช้บริการได้ต่อเมื่อบริษัทได้อนุมัติคำขอ และภายหลังจากที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้สร้างบัญชีใช้บริการเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่านั้น

ทันทีที่ผู้ใช้บริการพบ หรือสงสัยว่าบัญชีแอปพลิเคชัน Max Me Shop และ/หรือรหัสผ่านถูกคุกคาม หรือมีบุคคลภายนอกใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งบริษัทให้ทราบ โดยโทร. 1614 กด 3 เพื่อแจ้งระงับบัญชีแอปพลิเคชัน Max Me Shop ดังกล่าว เพื่อให้บริษัทดำเนินการต่อเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและทันเวลา อย่างไรก็ดี มาตรการที่บริษัทได้ดำเนินการนั้นไม่ถือเป็นการชดใช้ค่าเสียหายของบริษัทต่อผู้ใช้บริการแต่อย่างใด ไม่ว่าโดยชัดแจ้ง หรือโดยพฤตินัยก็ตาม ทั้งยังไม่ถือว่าเป็นความรับผิดใดๆ ของบริษัทที่มีต่อผู้ใช้บริการอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อได้รับแจ้งจากผู้ใช้บริการแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิในการใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการระงับคำสั่งให้ชำระเงินจากบัญชีของผู้ใช้บริการ และระงับการรับเงินตามคำขอชำระเงินถัดมาจากบัญชีดังกล่าวตามที่จะเห็นสมควรต่อไป

3. การใช้บริการ

3.1 ผู้ประกอบการร้านค้าจำเป็นต้องสมัครเพื่อเข้าใช้บริการแอปพลิชัน Max Me Shop เพื่อให้สามารถเข้ารับบริการต่างๆ ทั้งทีมีอยู่แล้วในปัจจุบันหรืออาจมีขึ้นในอนาคต

3.2 ผู้ใช้บริการจะต้องให้ข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือรับรองนิติบุคคลซึ่งมีอายุไม่เกิน 6 (หก) เดือน นับถึงวันสมัครใช้บริการ วัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจของนิติบุคคล หมายเลขทะเบียนนิติบุคคล ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม บัญชีเงินฝากของนิติบุคคล และชื่อ-นามสกุลของกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการ บัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลดังกล่าว (ที่มีการลงลายมือชื่อโดยกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการ และประทับตราสำคัญของนิติบุคคลในเอกสารดังกล่าวทุกประเภท) หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ รวมถึงเอกสารอื่นใดที่บริษัทจะขอให้ส่งเพิ่มเติม (ถ้ามี) และที่ข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นตามที่แอปพลิเคชันกำหนด โดยผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นความจริง และเป็นปัจจุบันเท่านั้น เพื่อให้สามารถตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการร้านค้า ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้ามีกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการเป็นบุคคลผู้ถือสัญชาติอื่นนอกจากสัญชาติไทย (“ชาวต่างชาติ”) แล้วเช่นนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องนำส่งข้อมูลหนังสือเดินทาง ประเภทวีซ่าเพื่อการพำนักในประเทศไทย สถานที่พำนักในประเทศไทย รูปถ่ายหนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานมากกว่า 6 (หก) เดือน และใบอนุญาตการทำงานที่ยังไม่หมดอายุของบุคคลดังกล่าวเป็นการเพิ่มเติมด้วย โดยผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องอัปโหลดเอกสารตามที่กำหนดไว้ดังกล่าวสมัครขอเข้าใช้บริการผ่านระบบ และกด "ยืนยัน" ส่งเอกสารผ่านช่องทางการสมัครดังกล่าว โดยบริษัทจะตรวจสอบข้อมูล และแจ้งให้ทราบถึงผลการพิจารณาภายใน 7 (เจ็ด) วันทำการ

3.3 กรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการของผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องสมัครใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันโดยใช้ชื่อบัญชี (Username) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อเข้าทำธุรกรรมต่างๆ ที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านนี้ได้ด้วยตนเองในภายหลังตามข้อกําหนดและเงื่อนไขที่แอปพลิเคชันกำหนด ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปิดใช้บริการ ให้บริการ และ/หรือทำธุรกรรมกับผู้ประกอบการร้านค้า หรือกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการที่ปกปิดชื่อจริง หรือใช้นามแฝง หากบริษัทตรวจพบว่าชื่อที่ผู้ประกอบการร้านค้า หรือกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการใช้บริการลงทะเบียนไว้เป็นชื่อที่ไม่ถูกต้องและเป็นจริง ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าเป็นนิติบุคคลที่มีมีกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการเป็นชาวต่างชาติ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะปฏิเสธการเปิดใช้บริการ ให้บริการ และ/หรือทำธุรกรรมกับผู้ประกอบการร้านค้ารายดังกล่าวที่มีสัญชาติ ถิ่นที่อยู่ หรืออาชีพบางประเภทตามที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้า กรรมการผู้มีอำนาจ และเจ้าของกิจการตกลงและยอมรับว่าการพิจารณาอนุมัติการสมัครใช้บริการขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น

3.4 ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับทราบและตกลงว่า การใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน Max Me Shop จะต้อง มีการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการร้านค้าเป็นสำคัญ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องเก็บรักษารหัสผ่านนี้ไว้เป็นความลับเฉพาะตัวของผู้ประกอบการร้านค้าเท่านั้น หากปรากฎว่ามีการทําธุรกรรมใดๆ โดยใช้ชื่อบัญชี (Username) และรหัสผ่าน (Password) ของผู้ประกอบการร้านค้า จะถือว่าผู้ประกอบการร้านค้าเป็นผู้ทำรายการด้วยตนเอง และผู้ประกอบการร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการไม่รักษารหัสผ่านของตนให้เป็นความลับ และบริษัทจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการเข้าทำธุรกรรมหรือรายการใดๆ ผ่านแอปพลิเคชันภายใต้ชื่อบัญชีและรหัสผ่านของผู้ประกอบการร้านค้าเมื่อได้รับการยืนยันตัวตนที่ถูกต้องแล้ว

3.5 ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าใช้รหัสผ่านทํารายการใดๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการใช้บริการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ผู้ประกอบการร้านค้ายอมรับว่าไม่สามารถยกเลิก เพิกถอน เปลี่ยนแปลง หรือ แก้ไขรายการดังกล่าวได้ และผู้ประกอบการร้านค้าต้องผูกพันตามรายการดังกล่าวทุกประการ

3.6 ผู้ประกอบการร้านค้า รับทราบว่า ในการใช้บริการหากมีการ ป้อนรหัสผ่านผิด ติดต่อกัน

มากกว่าจํานวนครั้งที่บริษัทกําหนด บริษัทจะระงับการใช้บริการโดยอัตโนมัติทันที ผู้ประกอบการร้านค้าจะสามารถใช้บริการนี้ต่อไปได้ก็ต่อเมื่อแจ้งความจํานงให้บริษัทดําเนินการตามวิธีอื่นใดที่บริษัทกําหนดเพื่อขอออกรหัสผ่านใหม่

3.7 กรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าลืมรหัสผ่าน หรือต้องการเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้ประกอบการร้านค้าต้องแจ้งให้บริษัททราบตามวิธีการที่บริษัทกําหนด ทั้งนี้ การดําเนินการต่างๆ ข้างต้นจะไม่มีผลกระทบต่อการทําธุรกรรมใดๆ ที่ได้ดําเนินการไปแล้วก่อนการแจ้งให้บริษัททราบ

3.8 ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงบางธุรกรรมที่บริษัทกำหนดเท่านั้น โดยทำการผูกบัตรดังกล่าวกับบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ให้บริการชำระค่าสินค้า และ/หรือค่าบริการ ด้วยวิธีการชำระเงินข้างต้น เฉพาะสินค้า และ/หรือบริการของผู้ประกอบการร้านค้าตามเงื่อนไขที่มีอยู่ในปัจจุบัน และ/หรือที่บริษัทจะกำหนดขึ้นในภายหน้า

3.9 สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีสัญชาติไทย นอกเหนือจากที่กำหนดในข้อ 3.8 ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถใช้บริการ รวมทั้งการทําธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีของตนได้ไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนดไว้ต่อรายการ ต่อวัน และต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระดับการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งปรากฏอยู่ในหน้า “ข้อมูลร้านค้า” บนแอปพลิเคชัน สำหรับผู้ประกอบการซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างประเทศ หรือมีกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการเป็นชาวต่างชาตินั้น ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถใช้บริการ และทําธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีของตนได้ไม่เกินจำนวนเงินที่กำหนดไว้ต่อรายการ ต่อวัน และต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระดับการยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าได้ทำไว้กับบริษัท ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถตรวจสอบจำนวนเงินได้ที่ เมนูรายงานการขายบนแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม บริษัทมีสิทธิเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินดังกล่าว ในเวลาใดก็ได้ โดยจะแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้า

3.10 ผู้ประกอบการร้านค้ายินยอมชําระค่าธรรมเนียมการใช้บริการตามอัตราที่บริษัทกําหนด โดยผู้ประกอบการร้านค้าสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมได้ที่เว็บไซต์ https://www.maxcard.co.th/eWallet.html ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าธรรมเนียมไม่ว่าเวลาใดได้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใดๆ ให้แก่บริษัทตามที่กำหนดไว้ข้างต้น ผู้ประกอบการร้านค้ายินยอมให้บริษัทหักเงินในบัญชีเพื่อชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวในวันที่ถึงรอบกำหนดชำระได้ทันที โดยผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะคงจำนวนเงินในบัญชีเพื่อให้เพียงพอต่อการหักเงิน เพื่อชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว

3.11 ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบว่าบริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการในการอํานวยความสะดวกในการทําธุรกรรมด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผูกกับบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้า ตามคําสั่งของผู้ประกอบการร้านค้าเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่ถือว่าบริษัทกระทำการดังกล่าวในฐานะธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือการให้บริการในการทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้บริการทางการเงิน

ในการให้บริการของบริษัท ไม่ถือว่าบริษัท

(ก) ให้บริการโอนเงินโดยตรงให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า และ/หรือ

(ข) กระทำการเป็นทรัสตี (trustee) ผู้ดูแลรักษาแทน หรือผู้บริหารผลประโยชน์ในเงินของผู้ประกอบการร้านค้า

หากมีปัญหาเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผูกกับบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้า นอกเหนือจากการทำธุรกรรมด้วยเงิน ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงติดต่อธนาคาร หรือสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรอิเล็กทรอนิกส์ และ/หรือดําเนินการแก้ไขด้วยตนเอง โดยบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

3.12 ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบว่าการให้บริการต่างๆนี้ บริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการในการอํานวยความสะดวกค่าบริการ รวมถึงการทําธุรกรรมตามคําสั่งของผู้ประกอบการร้านค้าตามที่แอปพลิเคชันได้ให้บริการเท่านั้น ดังนั้น หากผู้ประกอบการร้านค้าพบปัญหาจากการใช้สินค้า/บริการ หรือมีความชํารุดบกพร่องของสินค้า/บริการ หรือเกิดข้อพิพาทใดๆ กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ผู้ซื้อ ลูกค้า หรือบุคคลใดๆ แล้วเช่นนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องดําเนินการติดต่อกับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ผู้ซื้อ ลูกค้า หรือบุคคลเหล่านั้นด้วยตนเอง อนึ่ง ในการให้บริการ บริษัทไม่มีส่วนรู้เห็นในสัญญา ข้อกําหนด หรือสิทธิและหน้าที่ต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ผู้ซื้อ ลูกค้า หรือบุคคลใดๆ มีอยู่ต่อกัน ดังนั้นหากมีข้อพิพาทอันเนื่องมาจากการให้บริการของบริษัทเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชําระหนี้เกินกําหนด การชําระหนี้เพียงบางส่วน การถูกระงับ การส่งมอบสินค้า หรือการให้บริการ หรือกรณีอื่นใดแล้วเช่นนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบและ/หรือดําเนินการแก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้นกับบุคคลเหล่านั้นด้วยตนเอง โดยบริษัทจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

3.13 บริษัทสงวนสิทธิในการปฏิเสธการให้บริการ ดังต่อไปนี้

1) การทํารายการในนามนิติบุคคล หรือบุคคลอื่นๆ ที่ประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงตามที่ ปปง. กำหนด

2) การทํารายการบางประเภทซึ่งถูกระงับการให้บริการและมีค่าธรรมเนียมการต่อสัญญา

3) การทํารายการบางประเภทซึ่งมีหนี้ค้างชําระและเกินกําหนดชําระ

4) การทํารายการบางประเภทซึ่งเป็นการชําระเพียงบางส่วน

5) การทำรายการเกินจำนวนรายการที่บริษัทกำหนดต่อเดือน

6) การทำรายการซึ่งขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดี

3.14 กรณีที่บริษัทตรวจพบว่า เงินในบัญชี Max Me Shop ของผู้ใช้บริการมีไม่เพียงพอต่อชําระค่าธรรมเนียม และ/หรือเงินทุกประเภท หรือมีเหตุผลอันสมควรใดๆ ที่ทำให้บริษัทมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการแล้วเช่นนี้ บริษัท มีสิทธิระงับการให้บริการแก่ผู้ประกอบการร้านค้าในครั้งนั้นได้ทันที

3.15 บริษัทจะให้บริการอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับบริการที่พึงพอใจ ดังนั้น หากการให้บริการใดๆ ของบริษัทเกิดความผิดพลาด ล่าช้า ไม่ว่าเกิดขึ้นจากระบบคอมพิวเตอร์ ระบบแอปพลิเคชัน ระบบปฏิบัติการ ระบบอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หรือระบบอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนี้ รวมทั้งระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใดๆ ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงไม่ยกเอาเหตุขัดข้องดังกล่าวมาเป็นข้อเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากบริษัท อย่างไรก็ดี บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว อันจะส่งผลให้บริการต่างๆ มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามข้อตกลงที่ระบุไว้

3.16 บริษัทจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีต่อความสูญหาย หรือเสียหาย ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือโดยทางอ้อมอันเกิดขึ้นกับข้อมูลในโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์อื่นใดอันเป็นผลมาจากการใช้บริการนี้

3.17 กรณีที่บริษัทตรวจพบว่า การทำธุรกรรม หรือเงินในบัญชี (Max Me Shop) ของผู้ประกอบการร้านค้า ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ใช้บริการครั้งล่าสุดแล้วเช่นนี้ บริษัทสงวนสิทธิในการคิดค่าธรรมเนียมใดๆ (ถ้ามี) จากผู้ใช้บริการ รวมทั้งดําเนินการใดๆ ตามที่บริษัทเห็นสมควร

3.18 กรณีที่บริษัทตรวจพบว่าบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้ามีการทำรายการธุรกรรมที่มีลักษณะไม่พึงคล้าย การทำธุรกรรมสำหรับบุคคลทั่วไป บริษัทขอสงวนสิทธิในการระงับการใช้บริการของผู้ประกอบการร้านค้าชั่วคราว เพื่อตรวจสอบการทำรายการของผู้ประกอบการร้านค้า และเมื่อตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการร้านค้านำบัญชี (Max Me Shop) ไปใช้ในลักษณะตัวแทนรับชำระเงิน หรือประกอบธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ใช่การดำเนินการในรูปแบบปกติตามข้อตกลง หรือเพื่อการดำเนินงานใดๆ ที่มีวัตถุประสงค์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแล้วเช่นนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการระงับ และ/หรือยกเลิกการใช้บริการของผู้ประกอบการร้านค้าในทันที ทั้งนี้ บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น

3.19 ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดในการหักเงินและ/หรือโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้าอันเกิดขึ้นจากบริษัท ผู้ประกอบการร้านค้ายินยอมให้บริษัทแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้ถูกต้องได้ตามความเป็นจริง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการหักเงินจากและ/หรือโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้าถึงเหตุและจำนวนเงินที่ผิดพลาดดังกล่าว และหากความผิดพลาดดังกล่าวเป็นเหตุให้บริษัทต้องชำระเงินแทนผู้ประกอบการร้านค้าไปก่อน ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงชำระคืนให้แก่บริษัท จนครบถ้วน ทั้งนี้ หากบริษัทพบว่าเงินในบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้ามีไม่เพียงพอให้บริษัทหักเงิน เพื่อแก้ไขความผิดพลาดตามข้อนี้ บริษัทมีสิทธิระงับการให้บริการแก่ผู้ประกอบการร้านค้าจนกว่าบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้าจะมีจำนวนเงินเพียงพอ และบริษัทได้ทำการหักเงินจากบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้าดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ในกรณีที่ความผิดพลาดในการหักเงินและ/หรือโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้านั้นเกิดขึ้นจากผู้ประกอบการร้านค้า หรือเป็นกรณีที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากบริษัทแล้วเช่นนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะตรวจสอบและเรียกร้องหรือคืนเงินดังกล่าวให้แก่คู่พิพาทของผู้ประกอบการร้านค้าโดยตรง และหากผู้ประกอบการร้านค้า มีข้อต่อสู้และ/หรือสิทธิเรียกร้องใดๆ ก็จะไปว่ากล่าวกันเองกับคู่พิพาทของผู้ประกอบการร้านค้า

3.20 บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการกันวงเงินในบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้าเป็นการชั่วคราวตามความเหมาะสม เพื่อทำการตรวจสอบ ในกรณีที่บริษัทพบ หรือได้ทราบถึงพฤติการณ์ใดพฤติการณ์หนึ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงพฤติการณ์ดังต่อไปนี้

1) ในกรณีที่บริษัทมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ประกอบการร้านค้าได้รับเงินเข้าบัญชีของ ผู้ประกอบการร้านค้า อันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการโอนเงินของผู้ใช้บริการ หรือผู้ประกอบการค้า รายอื่น หรือบุคคลอื่นใด หรือ

2) ในกรณีที่บริษัทมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ประกอบการร้านค้าได้รับเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้า อันเนื่องมาจากการกระทำผิดกฎหมาย หรือพยายามกระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนด หรือ เหตุใด ๆ ก็ตาม ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัท หรือบุคคลอื่นใด

3) กรณีที่บริษัทตรวจพบว่าเงินในบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้ามีไม่เพียงพอชําระค่าธรรมเนียม หรือเงินใดๆ ทุกประเภท พร้อมกันนี้ บริษัทมีสิทธิระงับการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในครั้งนั้นได้

3.21 ภายใต้พระราชบัญญัติการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รวมถึงประกาศ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันและ/หรือที่จะมีผลใช้บังคับในภายหน้า บริษัทซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยการจัดให้ผู้ใช้บริการแสดงตัวตนและยืนยันตัวตน โดยทําการลงทะเบียนและแสดงหลักฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องตามที่กฎหมายกําหนด หากผู้ประกอบการร้านค้า ไม่ดําเนินการลงทะเบียนหรือแสดงหลักฐานภายในระยะเวลาที่กําหนดดังกล่าว ผู้ประกอบการร้านค้ายินยอมให้บริษัทระงับการใช้บริการ หรืองดเว้นการทำธุรกรรมของผู้ประกอบการร้านค้าไว้ชั่วคราว หรือดําเนินการอื่นใดจนกว่าผู้ประกอบการร้านค้าจะลงทะเบียนและแสดงหลักฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องตามแบบที่กฎหมายหรือสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกําหนด

3.22 บริษัทสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติ และการจำกัดจำนวนกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 1 กระเป๋าเงิน ต่อ 1 หมายเลขทะเบียนนิติบุคคล ตามที่บริษัทเห็นสมควร โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุผลให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบ

3.23 ผู้ใช้บริการรับทราบว่า ผู้ประกอบการร้านค้าจะไม่สามารถยืนยันตัวตนเพื่อเข้าทำธุรกรรมใดๆ ผ่านบัญชีแอปพลิเคชัน Max Me Shop ได้ หากผู้ประกอบการร้านค้ามีการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่ลงทะเบียนไว้กับบัญชี Max Me Shop ของบริษัท หรือยกเลิกการใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ลงทะเบียนไว้กับบัญชี Max Me Shop หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าวถูกยกเลิกด้วยเหตุผลอื่นใด

3.24 บริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหาย หรือความสูญหายที่เกิดกับเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัญชี Max Me Shop อันเนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ประกอบการร้านค้าสูญหาย ถูกขโมย ถูกหลอกลวง หรือจากเหตุสุดวิสัยอื่นใด โดยผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งระงับการใช้เงินในบัญชี Max Me Shop ต่อบริษัททันที โดยแจ้งความประสงค์ขอระงับการใช้เงินในบัญชี Max Me Shop ด้วยตนเองทางโทรศัพท์มายังหมายเลข 1614 กด 3 หรือ E-mail : [email protected]

3.25 บริษัทไม่รับผิดชอบในความเสียหาย หรือความสูญหายที่เกิดกับเงินในบัญชี Max Me Shop อันเนื่องจาก Malware หรือ computer virus หรือจากการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์อื่นใดของผู้ใช้บริการที่ใช้บริการเงินในบัญชี Max Me Shop

3.26 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ประกอบการร้านค้าที่เป็นนิติบุคคลต่างประเทศ สามารถตรวจสอบบริการ รวมทั้งการทําธุรกรรมต่างๆ ด้านการเงิน การธนาคาร และ/หรือการทําธุรกรรมใด ๆ ที่สามารถใช้ได้ ที่ เมนูรายงานการขายบนแอปพลิเคชัน

4. ข้อตกลงของผู้ประกอบการร้านค้า

4.1 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องให้บริการด้วยความระมัดระวังและความเชี่ยวชาญตามสมควร และเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนโยบายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

อนึ่ง ผู้ใช้บริการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ https://www.maxme.co.th/PrivacyPolicy.html

4.2 ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบและตกลงว่า ผู้ประกอบการร้านค้ามีสิทธิที่จะใช้บริการในการรับชำระเงินจากมูลค่าธุรกรรมที่ได้กระทำผ่านบัตรเครดิตที่ได้รับอนุมัติล่วงหน้าจากบริษัทเท่านั้น และบริษัทได้แจ้งผู้ประกอบการร้านค้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งคราว หรือเป็นธุรกรรมที่ได้กระทำผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop เท่านั้น

4.3 ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบและตกลงว่าความสัมพันธ์ใดๆ ระหว่างผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop และผู้ประกอบการร้านค้าในส่วนข้อกำหนดที่เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในการทำธุรกรรม วิธีการทำธุรกรรม และข้อกำหนดและการดำเนินการ หรือการไม่ดำเนินการของธุรกรรม (รวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ การปฏิเสธที่จะดำเนินการ ความล่าช้า การไม่ส่งมอบ ความชำรุดบกพร่อง ความผิดพลาด การคืน หรือเปลี่ยนสินค้าและบริการ และการคืนเงิน) เป็นข้อตกลงที่มีขึ้นระหว่างผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop กับผู้ประกอบการร้านค้าเท่านั้น โดยสิทธิและหน้าที่ทั้งหมด และความรับผิดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมนั้น จะเป็นการบังคับใช้ ปฏิบัติ และรับผิดชอบระหว่างผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop และผู้ประกอบการร้านค้า ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและมีการบังคับใช้ และตามข้อตกลงของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop กับผู้ประกอบการร้านค้า บริษัทจะรับผิดชอบเพียงการตรวจสอบบัตรเครดิต และการเรียกเก็บเงิน รวมถึงการโอนเงินทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนในมูลค่าธุรกรรมที่ถึงกำหนดชำระแล้วจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ให้กับผู้ประกอบการร้านค้า โดยเป็นไปตามข้อบังคับ กฎหมายที่บังคับใช้ เงื่อนไขการให้บริการ และข้อกำหนดของบริษัททั้งหมดที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ และที่จะกำหนดให้มีขึ้นต่อไปในภายหน้า

4.4 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงว่า การให้บริการของบริษัทไม่ได้กระทำการในฐานะเป็นตัวการ แต่เป็นเพียง ผู้อำนวยความสะดวกแทนผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าทำธุรกรรมกับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop เท่านั้น ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงให้บริษัทดำเนินการในฐานะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการรับ และโอนมูลค่าธุรกรรมที่เกี่ยวข้องที่ชำระโดยผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการใน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" และบันทึกข้อมูลของธุรกรรมนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าสละสิทธิที่จะเรียกร้องต่อบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การดำเนินการหรือไม่ดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมใดๆ ระหว่างผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop กับผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งดำเนินธุรกรรมผ่านบริการของบริษัทที่ทำให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า

4.5 ผู้ประกอบการร้านค้ามีความรับผิดชอบตามกฎหมาย และมีหน้าที่แต่เพียงฝ่ายเดียวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจาก (1) นิติสัมพันธ์ตามสัญญากับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop รวมถึงสิ่งที่ได้มาจากสิทธิ และความรับผิดชอบใดๆ การรับประกันในเรื่องความชำรุดบกพร่องและสิทธิทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีระหว่างผู้ประกอบการร้านค้ากับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop และ/หรือ (2) ตามกฎระเบียบและกฎหมายที่บังคับใช้ใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ตามที่แก้ไข) ในกรณีที่บริษัทได้รับการสูญหาย หรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ประกอบการร้านค้าที่มิได้ปลดเปลื้องตนเองให้พ้นความรับผิดชอบทางกฎหมายและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ข้างต้นในข้อ 4.5 นี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายโดยไม่มีเงื่อนไขให้กับบริษัททันที และ/หรือชดใช้ และชดเชยให้กับบริษัทต่อความรับผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว

4.6 บริษัทมีสิทธิในการตรวจสอบสินค้าและบริการที่ได้ทำธุรกรรม หรือบริการที่ทำโดยผู้ประกอบการร้านค้า ในกรณีที่กำหนดไว้ ผู้ประกอบการร้านค้ามีหน้าที่ระบุรายละเอียดของสินค้าและบริการนั้น และระบุเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (เช่น เรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ให้กับบริษัทและจะต้องทำให้แน่ใจว่าเอกสารที่ยื่นสนับสนุนคำขอให้ชำระเงินนั้นถูกต้อง

4.7 หากผู้ประกอบการร้านค้า และผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ตกลงที่จะเพิกถอน ยกเลิก หรือบอกเลิกธุรกรรมใดๆ หรือเปลี่ยนสินค้าและบริการที่ได้ซื้อหรือราคาธุรกรรมหลังจากบริษัทได้โอนมูลค่าธุรกรรมที่เกี่ยวข้องไปให้กับผู้ประกอบการร้านค้าแล้ว ผู้ประกอบการร้านค้าจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการเพิกถอน ยกเลิก หรือบอกเลิกธุรกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อบริษัททันที และจัดหาบันทึกคืนเงิน (refund note) รวมถึงเอกสารสนับสนุนต่างๆที่เกี่ยวข้อง ให้แก่บริษัทภายในระยะเวลาที่ระบุในนโยบายการคืนเงิน ของบริษัท โดยส่งทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือทำเป็นลายลักษณ์อักษร หากบริษัทร้องขอ อย่างไรก็ดี เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่คืนเงินค่าสินค้าและบริการให้แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop เป็นเงินสดโดยตรง เว้นแต่บันทึกคืนเงิน (refund note) ตามที่กล่าวข้างต้นไม่ได้ถูกจัดส่งให้แก่บริษัทภายในระยะเวลาที่ระบุในนโยบายการคืนเงินของบริษัท

4.8 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะให้ความร่วมมือกับบริษัทในการที่จะอนุญาตให้บริษัทหรือผู้แทนหรือตัวแทนของบริษัทเข้าไปทำการตรวจสอบบัญชี (รวมถึงการตรวจสอบบันทึกทางธุรกรรม ความผิดปกติในธุรกรรมหรือบันทึกสินเชื่อที่เก็บไว้โดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงว่าบริษัทผู้ได้รับบัตรเครดิต ("ผู้ได้รับบัตร") หรือ องค์กรผู้ออกบัตรเครดิตระหว่างประเทศ (ถ้ามี) มีสิทธิที่จะกระทำการตามที่จำเป็นในการตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ของผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลธุรกรรมนั้นมีความมั่นคงปลอดภัย

4.9 บริษัทมีสิทธิที่จะขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้ารับการอบรมเป็นครั้งคราว (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเรื่อง การฝึกอบรมการอนุมัติบัตร (card authorization)) และมีสิทธิตรวจสอบผลของการฝึกอบรมนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องร่วมมือกับบริษัทในการป้องกันธุรกรรมที่ผิดกฎหมายหรือต้องสงสัยหรือฉ้อโกง และให้ความร่วมมือกับบริษัทในการจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องนั้น

4.10 ผู้ประกอบการร้านค้าจะทำการเสนอขายสินค้าและบริการผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ตามประเภทของสินค้าและบริการที่บริษัทกำหนด เพื่อให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop สามารถส่งคำสั่งซื้อ และ/หรือ คำขอใช้บริการ และทำการชำระเงินค่าสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าผ่านทาง "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ของผู้ประกอบการร้านค้า ตามวิธีการที่ระบุไว้ในข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าฉบับนี้ ทั้งนี้ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและบริการดังต่อไปนี้ให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ทราบ โดยผู้ประกอบการร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวเองทั้งสิ้น และผู้ประกอบการร้านค้าจะเก็บหลักฐานที่แสดงว่าได้แจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop

1) ข้อมูลรายละเอียดของสินค้าและบริการของผู้ประกอบการร้านค้า รวมถึงลักษณะ คุณภาพ และโฆษณาเผยแพร่ของสินค้าและบริการดังกล่าว (ถ้ามี)

2) เงื่อนไขในการคืนหรือยกเลิกสินค้าและบริการ และการคืนเงินค่าสินค้าและบริการให้แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop

3) สถานที่ตั้งสำนักงานหรือที่ทำการ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร และ/หรือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (email address) ของผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop สามารถติดต่อได้โดยสะดวก

4) ราคาสินค้าและบริการซึ่งอยู่ในรูปสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินตราต่างประเทศ (ถ้ามี)

5) รายละเอียด ขั้นตอน วิธีการและระยะเวลาในการส่งมอบสินค้าและบริการแก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop รวมทั้งขั้นตอนในการรับมอบสินค้าและบริการของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการส่งสินค้าและบริการแก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ทั้งที่อยู่ในประเทศ และต่างประเทศ และ

6) นโยบายความเป็นส่วนตัวและนโยบายการรักษาความปลอดภัยของผู้ประกอบการร้านค้าและเว็บไซต์ที่ให้บริการ

4.11 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งสินค้าและบริการตามธุรกรรมที่ระบุไว้ในเอกสารโฆษณาเผยแพร่ หรือตามรายละเอียดของสินค้าและบริการที่ระบุไว้บน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" หรือ ระบุโดยผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งนี้ การส่งมอบสินค้าหรือให้บริการดังกล่าวหมายรวมถึงเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการหาแหล่งสินค้าและบริการ การเลือกสรรและตรวจสอบคุณภาพสินค้าและบริการ การสั่งสินค้าจากผู้ผลิต การนำเข้า การดำเนินขั้นตอนศุลกากร การชำระภาษีอากร ค่าจัดส่ง รวมถึงค่าไปรษณีย์ การรับคืนและเปลี่ยนสินค้า การประกันการส่งสินค้า การจัดหาอุปกรณ์และสิ่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการและหน้าที่อื่นๆ (ถ้ามี) ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและบริการ

4.12 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องส่งสินค้าและบริการด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานให้แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในเอกสารโฆษณาเผยแพร่ และ/หรือตามรายละเอียดที่ระบุไว้ใน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" หรือตามที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ระบุไว้ ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

1) กรณีที่เป็นการขายสินค้า

สินค้าจะต้องอยู่ในสภาพที่ดี ปราศจากการชำรุดบกพร่องหรือมีตำหนิ ทั้งนี้ ในการส่งสินค้า ไปให้แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องมีใบตอบรับ หรือหลักฐานใดๆ ที่ผู้รับปลายทางลงนามเป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่า สินค้านั้นได้ส่งถึงผู้รับแล้วทุกครั้ง และผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องเก็บใบตอบรับการส่งของ หรือเอกสารหลักฐานการได้รับสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อการตรวจสอบเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 (เจ็ด) ปี นับแต่วันที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับเอกสาร และจะต้องส่งมอบให้แก่บริษัททันทีเมื่อบริษัทได้ร้องขอ หรือ

2) กรณีที่เป็นการให้บริการ

ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องให้บริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานตามที่ระบุไว้ในเอกสารโฆษณาเผยแพร่ หรือตามรายละเอียดที่ระบุบน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์"

3) ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่สามารถจะจัดส่งสินค้าและบริการแก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ได้ตามที่ระบุไว้ในเอกสารโฆษณาเผยแพร่ หรือรายละเอียดที่ระบุไว้บน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ไม่ว่าด้วยเหตุประการใด โดยมีเหตุผลและหลักฐานสนับสนุนความจำเป็นดังกล่าวอย่างชัดเจน ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ทราบ เพื่อแจ้งยกเลิกธุรกรรมต่อไปตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าฉบับนี้

4.13 ผู้ ประกอบการร้านค้าจะต้องดำเนินการให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ระบุชื่อ ที่อยู่ และรายละเอียดอื่นๆ ของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ตามที่บริษัทกำหนดให้ครบถ้วน และผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องจัดทำบันทึกทางธุรกรรมในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีรายละเอียดและรูปแบบตามที่บริษัทกำหนดและได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้า (“บันทึกทางธุรกรรม”) และนำส่งบันทึกทางธุรกรรมดังกล่าวให้แก่บริษัทผ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนดและได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้า ในการนำส่งบันทึกทางธุรกรรมให้แก่บริษัทดังกล่าว ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงและรับทราบว่าบันทึกทางธุรกรรมดังกล่าวจะต้องสร้างผ่าน "ร้านค้า ทางอิเล็กทรอนิกส์" ของผู้ประกอบการร้านค้าที่เสนอขายสินค้าและบริการ และเป็นผู้ประกอบการร้านค้า ที่จดทะเบียนในประเทศไทยเท่านั้น กรณีเป็นการรับบันทึกทางธุรกรรมด้วยวิธีการอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าฉบับนี้ วิธีการจัดทำบันทึกทางธุรกรรมและวิธีการนำส่งบันทึกทางธุรกรรมให้แก่บริษัท ให้เป็นไปตามที่บริษัทกำหนดและได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้า อนึ่ง ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรักษารูปแบบและวิธีการส่งบันทึกทางธุรกรรมตามที่กำหนดไว้ในข้อนี้ และจะเก็บเป็นความลับ ไม่เปิดเผยหรือแจ้งให้ผู้ใดทราบโดยเด็ดขาด หากผู้ประกอบการร้านค้าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และ/หรือบุคคลภายนอกอื่นใด ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น

4.14 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องขออนุมัติธุรกรรมเพื่อการหักบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop หรือขออนุมัติวงเงินบัตรเครดิตสำหรับธุรกรรมทุกรายการ ก่อนการส่งมอบสินค้าและบริการแก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนมูลค่าธุรกรรมเท่าใด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบว่า ในกรณีของการซื้อสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต การอนุมัติธุรกรรมดังกล่าว เป็นเพียงการตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ว่า มีเพียงพอสำหรับการซื้อสินค้าและบริการในครั้งนั้นๆ หรือไม่เท่านั้น มิได้เป็นการตรวจสอบว่าผู้ทำธุรกรรมดังกล่าวเป็นผู้ถือบัตรโดยถูกต้องแท้จริง หรือบัตรเครดิตที่นำมาใช้ซื้อสินค้าและบริการเป็นบัตรปลอมหรือสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้หรือไม่ หากมีการปฏิเสธจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop หรือผู้ที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตว่ามิได้เป็นผู้ทำธุรกรรม หรือบัตรเครดิตดังกล่าวเป็นบัตรปลอม หรือไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้ประกอบการร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหาย ที่เกิดขึ้น (ถ้ามี) ทุกประการ แม้ว่าธุรกรรมนั้นจะได้รับการอนุมัติแล้วก็ตาม

อนึ่ง ผู้ประกอบการร้านค้ายอมรับว่าบริษัทมีสิทธิที่จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติธุรกรรมใดๆ ก็ได้ แม้ว่าผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop จะยังใช้บัตรเครดิตไม่เต็มวงเงินหรือมีเงินในบัญชีเพียงพอให้หักบัญชีก็ตาม ทั้งนี้ โดยไม่จำเป็นต้องชี้แจงแสดงเหตุแต่ประการใด และการอนุมัติหรือไม่อนุมัติธุรกรรมดังกล่าวให้ถือเป็นที่สุด และผู้ประกอบการร้านค้าจะไม่ถือเป็นเหตุเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จากบริษัท

4.15 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องสรุปบันทึกทางธุรกรรมตามรูปแบบและวิธีการที่บริษัทกำหนดและได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้า และนำส่งให้แก่บริษัทเพื่อดำเนินการเรียกเก็บเงิน (Settlement) ภายใน 5 (ห้า) วันทำการ นับแต่วันที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับอนุมัติธุรกรรม โดยผู้ประกอบการร้านค้ายอมรับว่าบริษัทไม่มีหน้าที่ตรวจสอบว่าสรุปบันทึกทางธุรกรรมดังกล่าวมีรายละเอียดถูกต้องหรือไม่ และตกลงให้ถือว่ารายละเอียดในข้อมูลบันทึกทางธุรกรรมที่บริษัทได้รับเป็นข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับให้บริษัทดำเนินการตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าฉบับนี้ได้ทุกประการ กรณีเป็นการรับธุรกรรมผ่านวิธีการอื่น วิธีการเรียกเก็บเงินให้เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด และแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นกรณีๆ ไป

4.16 ผู้ประกอบการร้านค้าจะแจ้งแก่บริษัท ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้า (1) เลิกประกอบธุรกิจ (2) เปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจหรือประเภทของสินค้าและบริการ ที่นำเสนอผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" (3) เปลี่ยนแปลงกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการ ภายใน 3 (สาม) วันทำการ นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

5. การเก็บรักษาบันทึกทางธุรกรรม

5.1 เอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการร้านค้า กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop (รวมถึงบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ของข้อความที่เกี่ยวกับธุรกรรม รหัสการอนุญาตเกี่ยวกับธุรกรรม และตัวเลขธุรกรรม) และใบเสร็จที่เกี่ยวข้อง ใบสำคัญการจ่ายเงิน จะได้รับการเก็บรักษาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 (ห้า) ปี ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกิดขึ้นในระหว่างเวลานั้น บริษัทอาจจะขอให้ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาใช้พิสูจน์ ในเวลาใดก็ได้ ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่สามารถที่จะส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมให้กับบริษัทเพื่อตรวจสอบได้ภายใน 7 (เจ็ด) วันเมื่อบริษัทร้องขอ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคืนจำนวนเงินโอนให้กับบริษัทในจำนวนที่บริษัทได้โอนไปให้ผู้ประกอบการร้านค้า อันสืบเนื่องมาจากการทำธุรกรรม หรือบริษัทอาจจะหักกลบลบหนี้จำนวนนั้นจากยอดเงินอื่นที่บริษัทจะต้องชำระให้กับผู้ประกอบการร้านค้า

5.2 ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบและตกลงว่า ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่ได้เก็บรักษาเอกสารใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมใดๆ เช่นนั้นแล้ว บันทึกที่บริษัทเก็บไว้เกี่ยวกับธุรกรรมนั้นจะถือว่าถูกต้องแท้จริง

6. ข้อมูลบัญชี และวิธีการจ่ายเงิน

6.1 บริษัทจะต้องฝากเงินมูลค่าธุรกรรมที่ถึงกำหนดชำระแก่ผู้ประกอบการร้านค้า อันเกิดจากการทำธุรกรรมที่ได้กระทำผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ระหว่างผู้ประกอบการร้านค้ากับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ไว้ในบัญชีธนาคารที่แยกออกมาเฉพาะของบริษัท และจะแยกเก็บต่างหากจากเงินทุนของบริษัท ที่ใช้ในการประกอบการ เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop มีสิทธิยกเลิกการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการของผู้ประกอบการร้านค้า (Cooling Off) หรือเมื่อได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไข ในการชำระเงินระหว่างบริษัทกับผู้ประกอบการร้านค้า บริษัทจะต้องโอนมูลค่าธุรกรรมที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับไปยังบัญชีธนาคารที่เปิดใช้อยู่ของผู้ประกอบการร้านค้า ตามที่ได้กำหนดในข้อ 13. ("บัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า") ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าได้ให้ไว้ เมื่อได้ยื่นคำขอใช้บริการ ภายหลังจากที่ได้หักค่าใช้จ่ายใดๆ ที่บริษัทจะได้รับ

6.2 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดจากการโอนเงินใดๆ ที่เกี่ยวกับการให้บริการ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเฉพาะการโอนเงินมูลค่าธุรกรรมที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับ ไม่ว่าธุรกรรมนั้น จะถูกเพิกถอน ยกเลิก หรือบอกเลิกหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย บริษัทจะไม่คืนค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ไม่ว่าในกรณีใดๆ

6.3 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของผู้ประกอบการร้านค้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การให้บริการ โดยห้ามมิให้มีการโอนสิทธิ ให้ หรือยกบัญชีการให้บริการเป็นมรดก ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่ประสงค์ที่จะต่อสัญญากับบริษัท ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องทำคำขอเพื่อยกเลิกบัญชีการใช้บริการ

6.4 บริษัทมีสิทธิที่จะระงับการชำระเงินใดๆ ที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับ หากบริษัทด้วยดุลยพินิจเด็ดขาด แต่ผู้เดียวมีเหตุอันสมควรที่ทำให้เชื่อได้ว่าผู้ประกอบการร้านค้าอาจหรือจะหยุดประกอบกิจการ หรือผู้ประกอบการร้านค้าอาจหรือจะมีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีการดำเนินการชำระบัญชี ผู้ประกอบการร้านค้า มีการประนอมหนี้ ล้มละลาย ถูกพิทักษ์ทรัพย์ การจัดแบ่งทรัพย์สิน หรือเลิกกิจการ (หรือที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่กล่าวมาในเขตอำนาจศาลใดๆ ก็ตาม) หรือหากบริษัทได้รับการแจ้งจากศาลใดๆ หรือหน่วยงาน ที่มีอำนาจอื่นๆ หรือจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop เกี่ยวกับกรณีข้อพิพาทในการชำระเงินมูลค่าธุรกรรม ก่อนที่บริษัททำการโอนมูลค่าธุรกรรมไปยังผู้ประกอบการร้านค้า

6.5 บริษัทจะบันทึกระบบปฏิบัติการบริการทางธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า ไม่ว่าการปฏิบัติการนั้น จะสมบูรณ์หรือไม่ก็ตาม ผู้ประกอบการร้านค้าอาจจะขอบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมของบัญชีการใช้บริการและบริการผ่านการบริหารจัดการที่บริษัทได้จัดไว้ให้ ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าพบบันทึกข้อมูล ที่ผิดพลาดใดๆ อาจจะขอให้บริษัทจัดหาบันทึกข้อมูลคำสั่งในการเรียกเก็บหรือจ่ายเงินที่เป็นประเด็นนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าใจและตกลงว่า หลังจากบริษัทได้โอนจำนวนเงินที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ระบุ ไปยังบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้าตามคำสั่งของผู้ประกอบการร้านค้า และภายหลังจากที่สถาบันการเงินที่เป็นผู้ให้บริการแก่บริษัท ยืนยันว่าจำนวนเงินดังกล่าวได้รับไว้แล้ว ถือว่าบริษัทได้ปฏิบัติหน้าที่ ในการชำระเงินตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าแล้ว ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้ามีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการชำระเงินดังกล่าว ให้สอบถามไปยังสถาบันการเงินที่ผู้ประกอบการร้านค้ามีบัญชีธนาคารอยู่

7. ความรับผิดชอบของผู้ประกอบการร้านค้าในการคืนเงิน

7.1 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงว่าในกรณีใดๆ ดังต่อไปนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะคืนเงินที่บริษัทได้โอนให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อมิให้บริษัทได้รับความเสียหาย และบริษัทอาจจะหักจำนวนเงินที่บริษัทจะได้รับคืนดังกล่าวจากเงินอื่นที่บริษัทจะต้องชำระให้กับผู้ประกอบการร้านค้า ได้ในกรณีดังต่อไปนี้

1) ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ไม่ได้รับสินค้าและบริการที่ซื้อ หรือมีข้อพิพาท หรือปฏิเสธการจ่าย หรือการเรียกร้องค่าเสียหายสำหรับสินค้าและบริการ

2) ผู้ประกอบการร้านค้าได้ทำผิดข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า หรือสถาบันการเงินได้แจ้งบริษัทว่าธุรกรรมของผู้ประกอบการร้านค้านั้นมีความเสี่ยง ผิดกฎหมาย เป็นที่น่าสงสัย หรือฝ่าฝืนกฎระเบียบและกฎหมายที่บังคับใช้อยู่

3) ผู้ประกอบการร้านค้าทำธุรกรรมให้กับร้านค้าหรือบุคคลอื่น หรือชำระหนี้ และเรียกร้องให้บริษัทชำระเงินจากบริษัทด้วยวิธีการอื่นใด โดยไม่ผ่านวิธีการให้บริการของบริษัท

4) ธุรกรรมที่ผู้ประกอบการร้านค้าเสนอในการดำเนินการ และการชำระค่าบริการนั้นเป็นผล มาจากการที่ผู้ประกอบการร้านค้าทำธุรกรรมนอกวัตถุประสงค์ที่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายหรือในธุรกิจ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียง การให้กู้ยืมเงิน

5) บริษัทขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าจัดหาบันทึกข้อมูลการทำธุรกรรมเพื่อให้บริษัทตรวจสอบ แต่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่สามารถที่จะจัดหาภายในเจ็ดวันหลังจากที่ได้รับการบอกกล่าวจากบริษัท

8. การปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop

8.1 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องปฏิบัติต่อผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ซึ่งใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop อย่างเท่าเทียมกัน ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม หรือจำกัดวิธีการชำระเงินของผู้ซื้อ (รวมถึงบริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop) สำหรับธุรกรรมโดยไม่มีเหตุผล และ จะไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นสูงสุดหรือต่ำสุดในการซื้อแต่ละครั้ง ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงเสนอขายสินค้าและบริการในราคาที่ไม่สูงกว่าราคาขาย และ/หรือค่าบริการที่คิดจากลูกค้าที่ชำระราคาด้วยเงินสด และ หากมีการให้บริการพิเศษใดๆ แก่ลูกค้าทั่วไป เช่น การให้ส่วนลดหรือของแถม ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องให้บริการนั้นแก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ด้วย

8.2 ไม่ว่าในกรณีใดๆ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่เปลี่ยนค่าบริการที่ต้องชำระ หรือค่าใช้จ่ายที่ได้ชำระไว้ โดยการเพิ่มราคาธุรกรรมที่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop จะต้องชำระ และห้ามมิให้ผู้ประกอบการร้านค้าเพิ่มราคาในการทำธุรกรรมที่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop จะต้องชำระ ในกรณีที่เกิดเหตุใดๆ ที่กล่าวข้างต้นขึ้น ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคืนค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บเพิ่มเติมให้กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ในทันที ในกรณีที่บริษัททำการสืบสวนและพบว่าผู้ประกอบการร้านค้าได้ปฏิบัติต่อผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop อย่างไม่เป็นธรรม ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้ากระทำการดังกล่าว จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย หรือสูญเสียใด ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทสำหรับความเสียหายและสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้น

8.3 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่ยกเว้นความรับผิดของตนเองด้วยการกำหนดให้ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop สละสิทธิในการโต้แย้งหรือใช้สิทธิเรียกร้องให้ผู้ประกอบการร้านค้ารับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop อันเนื่องมาจากธุรกรรมการซื้อสินค้าและบริการระหว่างผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop

9. การใช้รหัสผู้ขาย

รหัสผู้ขายที่ได้มอบให้ผู้ประกอบการร้านค้าเป็นสิทธิของบริษัท และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการร้านค้าในการใช้บริการ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่ให้รหัสผู้ขายให้กับบุคคลอื่น และผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่ใช้รหัสผู้ขายเกินกว่าวัตถุประสงค์ในการทำธุรกรรมเพื่อการใช้บริการ

10. ข้อกำหนดในการใช้บริการเรียกเก็บตามบัตรเครดิต และการชำระค่าบริการ

10.1 ผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าเงื่อนไขของบริษัทอาจจะขอสมัครใช้บริการในการเรียกเก็บและโอนการชำระเงินจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ซึ่งใช้บัตรเครดิตและ/หรือกระเป่าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในการทำธุรกรรมใน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ("การเรียกเก็บบัตรเครดิตและการชำระค่าบริการ")

10.2 ผู้ ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่ปฏิเสธการซื้อโดยใช้บัตรเครดิตใดๆ เพียงเพราะว่าจำนวนเงินที่ซื้อนั้นน้อย หรือห้ามมิให้กำหนดจำนวนขั้นสูงสุดหรือต่ำสุดสำหรับการซื้อใดๆ โดยบัตรเครดิต

10.3 ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้ายอมรับการชำระเงินของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ตามมูลค่าธุรกรรม โดยใช้บัตรเครดิตผ่านทางการให้บริการ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องได้รับเลขที่อนุญาตเพียงตัวเลขเดียวเท่านั้นสำหรับมูลค่าธุรกรรมทั้งหมดกับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop และขอให้ชำระเต็มจำนวนเท่านั้น สำหรับมูลค่าธุรกรรมจากการให้บริการ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่แบ่งแยกธุรกรรมบัตรเครดิตเป็นสองธุรกรรมหรือมากกว่านั้น หรือได้รับเลขอนุญาตสำหรับแต่ละส่วนของธุรกรรม ผู้ประกอบการร้านค้ารับรองจะไม่ใช้บริการในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย ลงนามในสลิปบัตรเครดิตโดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ได้รับเงินล่วงหน้าใดๆ ทำการฉ้อโกงในธุรกรรมการเงิน ทำการโอนเงินโดยไม่มีการทำธุรกรรม หรือ ชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้าให้กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop สำหรับสินค้าและบริการก่อนแล้วเรียกร้องให้มีการชำระเงินโดยธนาคารที่ออกบัตรเครดิต ("ผู้ออกบัตรเครดิต") ผ่านทางบริษัท ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดข้างต้น บริษัทอาจจะระงับการโอนมูลค่าธุรกรรมให้ผู้ประกอบการร้านค้า ในกรณีที่เงินตามมูลค่าธุรกรรมนั้นได้ถูกโอนไปยังผู้ประกอบการร้านค้าแล้ว ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้บริษัท

10.4 ในกรณีที่ธุรกรรมของผู้ประกอบการร้านค้ากับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop นั้นถูกเลื่อนกำหนดออกไป เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากบริษัท ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่รับชำระเงินมูลค่าธุรกรรมด้วยบัตรเครดิตของผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ผ่านช่องทางการให้บริการ ในกรณีที่ธุรกรรมนั้นเป็นธุรกรรมเลื่อนกำหนดออกไป หลังจากมูลค่าธุรกรรมนั้นได้มีการชำระด้วยบัตรเครดิตผ่านทาง การให้บริการ บริษัทอาจจะระงับมูลค่าธุรกรรมจากผู้ประกอบการร้านค้า ในกรณีที่มูลค่าธุรกรรมนั้นได้มีการชำระให้ผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคืนเงินจำนวนเดียวกันนั้นให้กับบริษัท

10.5 ในกรณีที่ผู้ออกบัตรเครดิตหรือผู้ได้รับบัตรเครดิต หรือนิติบุคคลภายในหรือภายนอกประเทศอาจจะปฏิเสธ ที่จะชำระเงินตามมูลค่าธุรกรรม หรือเรียกให้บริษัทชำระคืนมูลค่าธุรกรรมที่ได้ชำระหรือจ่ายให้ผู้ประกอบการร้านค้าไปก่อนหน้าแล้ว แม้ว่าบัตรเครดิตนั้นจะผ่านการพิจารณาตรวจสอบหรือ ยืนยันว่าใช้ได้โดยผู้ออกบัตรเครดิตหรือผู้ได้รับบัตรเครดิตหรือนิติบุคคลภายในหรือภายนอกประเทศ ("การเรียกคืน") ในสถานการณ์เหล่านี้ บริษัทอาจจะไม่ชำระมูลค่าธุรกรรมให้กับผู้ประกอบการร้านค้า ในกรณีที่มูลค่าธุรกรรมนั้นได้มีการชำระให้ผู้ประกอบการร้านค้าไปแล้ว ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคืนเงินจำนวนเดียวกันนั้นให้บริษัท แม้ว่าไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะจัดหา หรือดำเนินการในสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องก็ตาม ภายใต้เงื่อนไขดังนี้

1) การเรียกคืนแสดงถึงความรับผิดที่ผู้ประกอบการร้านค้ามีต่อบริษัทโดยพลัน และบริษัทมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ประกอบการร้านค้าชดใช้ด้วยวิธีการใดๆ ก็ตามเต็มจำนวน รวมถึงค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่นใด และความรับผิดซึ่งบริษัทได้รับอันเป็นผลมาจากการเรียกคืนดังกล่าว ("ค่าใช้จ่ายในการเรียกคืน")

2) บริษัทไม่มีหน้าที่ในการสืบสวนความถูกต้องของ "การเรียกคืน" จากผู้ออกบัตรเครดิต ผู้ได้รับบัตรเครดิต หรือนิติบุคคลภายในหรือต่างประเทศ ซึ่งการตัดสินดังกล่าวถือเป็นที่สุดและผูกพันการเรียกคืนใดๆ

3) ในกรณีที่การเรียกคืนนั้นเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานหลังจากวันที่มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบและตกลงว่า ไม่ว่าจะมีการยกเลิกสัญญาไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม บริษัทยังคงมีสิทธิที่จะได้รับการชดใช้ในส่วนของการเรียกคืน และค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนจากผู้ประกอบการร้านค้า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียกคืนทั้งหมดที่เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกรรมที่มีผลในระหว่างที่ข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้ามีผลบังคับใช้

10.6 ในกรณีที่หลังจากที่มีการทำธุรกรรมโดยบัตรเครดิต ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ที่เกี่ยวข้องทำการแจ้งผ่านทางผู้ออกบัตรเครดิตว่า ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ปฏิเสธที่จะชำระมูลค่าธุรกรรม หรือในกรณีมีข้อพิพาทอื่นใดเกิดขึ้น บริษัทอาจจะ (แต่มิได้มีหน้าที่) ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ในการระงับข้อพิพาทโดยใช้กลไกที่กำหนดโดยหน่วยงานที่มีอำนาจในการจัดการข้อพิพาทที่เกี่ยวกับการซื้อขายโดยบัตรเครดิต อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีหน้าที่จะชำระเงินตามมูลค่าธุรกรรมให้กับผู้ประกอบการร้านค้า

10.7 ในกรณีที่ศาล หน่วยงานที่มีอำนาจ องค์กรระหว่างประเทศ ผู้ออกบัตรเครดิต หรือผู้ได้รับบัตร ได้แจ้งให้บริษัททราบว่า ผู้ประกอบการร้านค้านั้นต้องสงสัยว่าเป็นร้านค้าที่มีความสุ่มเสี่ยงในการดำเนินกิจการ ที่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี หรือบริษัทได้พิจารณาว่าผู้ประกอบการร้านค้านั้นต้องสงสัยหรือเป็นร้านค้าที่มีความสุ่มเสี่ยง บริษัทอาจจะระงับการชำระเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า และระงับการอนุมัติที่ได้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าในการใช้บริการ หรือสมัครขอใช้บริการการชำระเงินกับบริษัท หรือระงับการชำระเงินไม่ว่าจำนวนใดๆ ให้กับผู้ประกอบการร้านค้า โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้า หลังจากผู้แจ้งหรือหน่วยงานที่มีอำนาจได้พิจารณาภายหลังจากการสืบสวนว่าผู้ประกอบการร้านค้านั้นไม่มีเหตุต้องสงสัยหรือสุ่มเสี่ยงใดๆ และแจ้งให้บริษัทรับทราบการพิจารณาดังกล่าว บริษัทจะคืนสิทธิของผู้ประกอบการร้านค้าในการรับชำระโดยบัตรเครดิตโดยผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop สำหรับธุรกรรมสินค้าและบริการที่ทำผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้ประกอบการร้านค้าจะไม่เรียกร้องดอกเบี้ยใดๆ หรือค่าเสียหายอื่นใดสำหรับจำนวนเงินที่บริษัทระงับการจ่ายในระหว่างที่มีการถูกระงับการชำระเงินให้กับบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า

10.8 ภายใต้บังคับข้อ 15. และข้อ 16. ที่จะกล่าวต่อไป โดยพิจารณาจากความจำเป็นทางการค้า บริษัทอาจจะใช้ข้อมูลของผู้ประกอบการร้านค้าซึ่งได้จดทะเบียนไว้กับบริษัท ในกรณีที่ศาลยุติธรรม หน่วยงานที่มีอำนาจ องค์กรระหว่างประเทศ ผู้ออกบัตรเครดิต หรือผู้ได้รับบัตร ได้ร้องขออย่างเป็นทางการให้บริษัทจัดหาข้อมูล บริษัทมีสิทธิที่จะจัดส่งข้อมูลดังกล่าว ตามกฎหมายที่บังคับใช้

10.9 ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าทราบว่ามีธุรกรรมบัตรเครดิตที่ผิดปกติใดๆ หรือสงสัยว่าผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ใช้บัตรเครดิตปลอม หรือได้รับรายงานการสูญหายของบัตรเครดิตดังกล่าว หรือพบว่าผู้ถือบัตรเครดิตนั้นต้องสงสัย ก่อนที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะยอมรับการทำธุรกรรมใดๆ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องยืนยันและได้รับเลขที่อนุญาตจากผู้ออกบัตรเครดิต ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ขอให้บริษัทช่วยเหลือในการได้รับคำยืนยันของผู้ออกบัตรเครดิต ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมจากการดังกล่าว

10.10 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนด เงื่อนไข วิธีการ ขั้นตอน หลักเกณฑ์ กฎระเบียบ ข้อบังคับที่ออกโดยผู้ได้รับบัตร (Acquirer) ผู้ออกบัตรเครดิต รวมถึงเครือข่ายผู้ให้บริการบัตรเครดิตทุกราย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะกรณีดังต่อไปนี้

1) ขั้นตอนการรู้จักลูกค้า (Know Your Customer (KYC)) และการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence)

2) การรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตสำหรับธุรกรรมที่กระทำผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์"

3) ระเบียบ ข้อปฏิบัติ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะมาตรฐาน Payment Card Industry Data Security Standard (PCI DSS) และ Payment Application Data Security Standard (PA DSS)

11. ความช่วยเหลือในการสืบสวน

11.1 บริษัทอาจจะขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าจัดหารายงาน และ/หรือข้อมูลในการทำธุรกรรมใดๆ สถานะการชำระหนี้ ของสัญญาซื้อขายใดๆ และข้อมูลอื่นใดที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นในการสืบสวนการใช้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบการร้านค้านั้นไม่อาจจะปฏิเสธคำขอรายงาน และ/หรือข้อมูลดังกล่าว

11.2 บริษัทอาจจะขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าจัดหาข้อมูล และ/หรือเอกสารใดที่จำเป็นในการปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎหมาย ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องจัดหาข้อมูลและ/หรือเอกสารดังกล่าวนั้นในทันที

12. การคิดค่าบริการ

12.1 เพื่อเป็นการตอบแทนการให้บริการโดยบริษัท ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องชำระค่าบริการให้บริษัท ตามที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องชำระ และได้รับแจ้งเป็นคราวๆ ("ค่าบริการ") ตามเงื่อนไขและข้อตกลงเรื่องการชำระค่าบริการที่กำหนดไว้ในคำขอ

12.2 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น ค่าบริการทั้งหมดและการชำระเงินอื่นใดที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องชำระให้บริษัทภายใต้ข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้านี้ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรแสตมป์ และภาษีที่เกี่ยวข้อง และนอกเหนือจากการชำระค่าบริการหรือเงินอื่นใดที่ต้องชำระแล้วนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะชำระภาษีดังกล่าวทั้งหมด รวมถึง เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมของหน่วยงานราชการใดๆ ที่เกิดขึ้น

12.3 ในบางครั้ง บริษัทอาจจะเปลี่ยนแปลงค่าบริการ และ/หรือ กำหนดค่าใช้จ่ายใหม่ นอกเหนือจากค่าธรรมเนียม โดยแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 (เจ็ด) วัน

12.4 บริษัทสงวนสิทธิที่จะหยุดให้บริการใดๆ โดยถือเป็นดุลยพินิจเด็ดขาดของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และ/หรือมีสิทธิยกเลิกข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าตามข้อ 19. หากปรากฎว่าผู้ประกอบการร้านค้าไม่ได้ชำระจำนวนเงินใดๆ ที่ถึงกำหนดชำระให้กับบริษัทในคราวใดภายในกำหนดระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในข้อ 11. ของเงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้านี้

13. บัญชีธนาคารและการชำระเงิน

13.1 ตลอดระยะเวลาที่ข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้ามีผลใช้บังคับ และตามระยะเวลาที่อาจจะกำหนดกันในภายหลัง เพื่อวัตถุประสงค์ตามเงื่อนไขของข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้านี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคงบัญชีในชื่อของผู้ประกอบการร้านค้ากับธนาคารที่บริษัทยอมรับ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับชำระเงินจากบริษัทและทำการชำระเงินให้กับบริษัท ("บัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า")

13.2 ในกรณีที่บริษัทสามารถหักเงินจากบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า บริษัทมีสิทธิที่จะหักยอดรวมทั้งหมดที่ถึงกำหนดชำระจากผู้ประกอบการร้านค้า ตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า โดยการหักบัญชีโดยตรงจากบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า และบริษัทสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้โดยไม่กระทบต่อสิทธิอื่นใด หรือการเยียวยาความเสียหายใดที่มีอยู่ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคงไว้ซึ่งคำสั่งธนาคารในการอนุญาตในการหักบัญชีดังกล่าว

13.3 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า ที่เสนอโดยผู้ประกอบการร้านค้า (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ สถานที่ของสาขาซึ่งมีบัญชีนั้นอยู่) และจะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงโดยปราศจากความยินยอมของบริษัท ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบัญชีธนาคารของผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรในทันที โดยให้รายละเอียดที่ครบถ้วนในการเปลี่ยนแปลงและเหตุผล

14. ทรัพย์สินทางปัญญา

ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงและรับทราบว่า ไม่มีข้อความใดในข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า ที่จะก่อให้เกิดการให้สิทธิ กรรมสิทธิ์ หรือประโยชน์ใดๆ หรือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการ สิทธิทั้งหมดนั้นเป็นของบริษัท และผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิของบริษัท

15. ความลับ

15.1 เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของข้อ 15. นี้ ข้อมูลความลับหมายถึง

1) ข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ประกอบการร้านค้า

2) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทซึ่งโดยลักษณะเป็นความลับ หรือบริษัทได้กำหนดให้เป็นความลับ

3) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าทราบหรือมีเหตุอันควรทราบหรือเชื่อว่าเป็นความลับ

4) ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่บริษัทได้ให้ไว้กับผู้ประกอบการร้านค้า และ

5) ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทรวมถึงการตลาดและแผนส่งเสริมการขายหรือสินค้าอื่นหรือข้อมูลของบริษัท ข้อมูลการวิจัย และการวิเคราะห์ ความลับทางการค้า การพัฒนาธุรกิจ และกลยุทธ์การตลาด ข้อมูลการซื้อขาย การบริหารองค์กร แผนธุรกิจ สัญญากับบุคคลอื่น รายชื่อลูกค้า ข้อมูลการเงิน ข้อมูลที่เป็นส่วนหนึ่งหรือเกี่ยวข้องกับสถานะทางการเงินและทรัพย์สินหรือความรับผิดของบริษัท

15.2 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรักษาข้อมูลความลับของบริษัทเป็นความลับ และจะต้องไม่ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ นอกไปจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ และจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลความลับของบริษัทต่อบุคคลใดๆ และจะต้องกระทำการตามสมควรเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือเปิดเผย

15.3 ข้อ 15.2 จะไม่บังคับใช้กับ

1) ข้อมูลใดๆ ซึ่งเป็นหรือกลายเป็นส่วนข้อมูลสาธารณะโดยไม่ได้มีการกระทำใดหรือเกี่ยวข้องกับคู่สัญญาที่ได้รับข้อมูล

2) ข้อมูลใดๆ ที่คู่สัญญาฝ่ายที่ได้รับข้อมูลได้รับจากบุคคลภายนอกผู้ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่รักษาความลับต่อคู่สัญญาที่เปิดเผยข้อมูล

3) ข้อมูลใดๆ ซึ่งได้พัฒนาโดยอิสระจากคู่สัญญาฝ่ายที่รับข้อมูลก่อนที่จะได้รับข้อมูลความลับจากคู่สัญญาฝ่ายที่เปิดเผยข้อมูลโดยปราศจากการเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลความลับหลังจากได้รับ โดยมีหลักฐานเป็นบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรของคู่สัญญาฝ่ายที่รับข้อมูล

4) ข้อมูลความลับใดๆ ซึ่งต้องเปิดเผยตามกฎหมายใดๆ ที่บังคับใช้ โดยที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท ตามรูปแบบและเนื้อหาในการเปิดเผย เท่าที่จำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้นั้น และจะต้องดำเนินการที่จำเป็นให้ผู้รับข้อมูลความลับได้ดำเนินการรักษาข้อมูลความลับให้เป็นความลับภายใต้เงื่อนที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนี้ และ

5) ข้อมูลความลับใดๆ ซึ่งต้องการที่จะเปิดผยตามคำสั่งใดที่ออกโดยศาล หรือองค์คณะที่มีเขตอำนาจ หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางกฎหมายใดๆ ระหว่างคู่สัญญา

15.4 ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบและตกลงว่าการฝ่าฝืนเงื่อนไขตามข้อ 14.จะส่งผลให้เกิดความเสียหาย ที่ไม่สามารถเยียวยาได้ต่อบริษัท ซึ่งความเสียหายนั้นอาจจะไม่มีการเยียวยาที่เพียงพอ และนอกเหนือจากการบรรเทาความเสียหาย และ/หรือการเยียวยาตามกฎหมาย บริษัทมีสิทธิที่จะบรรเทาความเสียหาย ที่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนหน้าที่ที่เกิดขึ้น หรืออาจจะเกิดขึ้นตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า (ไม่ว่าเป็นการคุ้มครองชั่วคราว การชำระหนี้โดยเฉพาะเจาะจง และการบรรเทาความเสียหายอย่างอื่น) โดยไม่จำเป็นที่จะต้องกำหนดรูปแบบการประกัน และผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่คัดค้านการบรรเทาความเสียหายดังกล่าวไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ

15.5 ข้อ 15. นี้จะมีผลบังคับใช้ต่อไป แม้ว่าเงื่อนไขการให้บริการนี้จะครบกำหนดอายุสัญญา มีการระงับ หรือมีการบอกเลิกไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม

16. ข้อมูลส่วนบุคคล

16.1 เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของข้อ 16.นี้

16.1.1 "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึงข้อมูลไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตามเกี่ยวกับบุคคลผู้ซึ่งระบุตัวตนได้จากข้อมูลนั้น หรือข้อมูลอื่นซึ่งคู่สัญญามีหรือมีแนวโน้มที่จะเข้าถึงข้อมูล

16.1.2 "การประมวลผล" เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง

1) ดำเนินการปฏิบัติการใดๆ หรือชุดปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลและรวมถึงการบันทึก การครอบครอง การบริหารจัดการ การปรับปรุง/การเปลี่ยนแปลง การเรียกคืน การวม การส่ง หรือการลบ/การทำลาย และ/หรือ

2) คัดลอก ใช้ เข้าถึง แสดง ทำงาน จัดเก็บ ตรวจสอบ จัดการ เปลี่ยนแปลง ดัดแปลง แปล แยกส่วนประกอบไปไว้อีกงานหนึ่ง ประมวลผล หรือรวบรวมเข้าด้วยกัน หรือจัดทำขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงาน และ/หรือ

3) อนุญาตให้บุคคลอื่นดำเนินการตาม (ก) และ/หรือ (ข)

16.2 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงและรับรองต่อบริษัทว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับ ไม่ว่าเกี่ยวข้องกับการบริการหรือกรณีอื่นใด (“ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท”)

16.2.1 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับและกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อกำหนดอื่นใดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่บริษัทมีหรือจะมีหน้าที่ตามกฎหมายนั้นในการกำหนดให้ผู้ประกอบการร้านค้าปฏิบัติตาม ตามที่บริษัทจะแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นคราวๆ ไป

16.2.2 โดยไม่เป็นการกระทบต่อกฎเกณฑ์ทั่วไปตามที่กล่าวข้างต้น ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องให้ความแน่ใจว่าจะได้จัดหามาตรฐานการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทซึ่งเทียบได้กับการคุ้มครองตามข้อบังคับและกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ

1) วัตถุประสงค์: ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ซึ่งบริษัทได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างเคร่งครัด และไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น

2) การใช้และเปิดเผย: ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในลักษณะ และเท่าที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าเท่านั้น และปฏิบัติตามข้อจำกัดทั้งหมดในการใช้หรือเปิดเผยตามที่บริษัทอาจจะแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบ

3) ความถูกต้อง: ผู้ประกอบการร้านค้ารับรองว่าจะใช้ความพยายามเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นถูกต้องและสมบูรณ์ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นอาจจะ (1) ถูกใช้โดยผู้ประกอบการร้านค้าในการตัดสินใจซึ่งมีผลกระทบต่อบุคคล ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นเกี่ยวข้อง หรือ (2) ถูกเปิดเผยโดยผู้ประกอบการร้านค้าต่อองค์กรอื่น (เฉพาะในกรณีที่ได้รับอนุญาตภายใต้ข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า)

4) การป้องกัน: ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่อยู่ในครอบครองหรือภายใต้การควบคุมของผู้ประกอบการร้านค้า โดยจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยตามสมควร เพื่อที่จะป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การเก็บ การใช้ การเปิดเผย การคัดลอก การปรับเปลี่ยน การลบทิ้ง หรือความเสี่ยงที่คล้ายคลึงกัน

5) การเก็บรักษา: ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องหยุดเก็บเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือยกเลิกวิธีการใดๆ ที่ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทันทีที่มีเหตุผลอันสมควรจะพิจารณาได้ว่า (1) วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้นั้นไม่ได้มีอยู่อีกต่อไปที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และ (2) การเก็บข้อมูลนั้นไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับวัตถุประสงค์ทางกฎหมายหรือทางธุรกิจ

6) การโอนข้ามประเทศ: ห้ามมิให้ผู้ประกอบการร้านค้าโอนข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ไป ในเขตใดๆ ก็ตาม นอกประเทศไทย เว้นแต่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท

7) นโยบาย: ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแน่ใจว่าลูกจ้าง ตัวแทนและผู้รับจ้างช่วง ซึ่งอาจจะได้รับหรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้น รับทราบหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในข้อ15. นี้ และ ตกลงที่จะผูกพันเช่นเดียวกัน

16.3 ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าทราบว่ามีการเก็บ การใช้ การเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า หรือมีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทโดยมิชอบ หรือการละเมิดการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งอาจจะละเมิดการรักษาความปลอดภัยหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือมีผลกระทบที่เป็นผลร้ายในสาระสำคัญต่อบริษัท หรือนำไปสู่ข้อเรียกร้อง การกระทำหรือการดำเนินการใด หรือ หากผู้ประกอบการร้านค้าทราบหรือสงสัยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นอาจจะมีความเสี่ยง หรือมีความเสี่ยงที่จะถูกเปิดเผยหรือได้รับมาจากบุคคลผู้ไม่มีอำนาจ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องแจ้งให้บริษัททราบ และให้ความร่วมมือกับบริษัทอย่างเต็มที่ในการเยียวยาเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสืบสวนเรื่องความปลอดภัยของบริษัทตามที่จำเป็นด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการร้านค้า

16.4 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงและรับรองต่อบริษัทว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัท ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับบริการหรือเรื่องอื่นใดก็ดี

1) ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้อยู่

2) ได้รับความยินยอมจากบุคคลทุกคนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบริษัท และเพื่อให้บริษัทรวบรวม ใช้ และเปิดเผยเพื่อประโยชน์ตามจุดมุ่งหมายในนโยบายรักษาความเป็นส่วนตัวของบริษัท

17. ข้อพิพาท

17.1 ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องไม่ทำให้บริษัทเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทหรือข้อเรียกร้องที่มีระหว่างผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop กับผู้ประกอบการร้านค้า ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องรับผิดชอบแต่เพียง ผู้เดียวในการจัดการกับข้อร้องเรียนจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการที่ได้ทำธุรกรรมผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" และได้ชำระเงินผ่านบริการ ในลักษณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้จัดหาสินค้าและบริการดังกล่าว ตามรูปแบบการชำระเงินอื่นใดที่ผู้ประกอบการร้านค้ายอมรับ

17.2 ในกรณีที่มีข้อพิพาทหรือข้อเรียกร้องไม่ว่าเรื่องใดเกิดขึ้นจากการใช้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า เอกสารและบันทึกข้อมูลในรายละเอียดของธุรกรรมที่ผู้ประกอบการร้านค้าและบริษัทมีอยู่ ตามที่กำหนดให้เก็บรักษาไว้ตามเงื่อนไขข้อ 5. จะนำมาใช้เพื่อการอ้างอิง และจะใช้เป็นพื้นฐานเดียวกันในการระงับข้อพิพาทหรือเรียกร้องดังกล่าว ในกรณีที่มีความแตกต่างระหว่างบันทึกข้อมูลของบริษัทกับของผู้ประกอบการร้านค้า บริษัทและผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องร่วมกันสืบหาสาเหตุความแตกต่าง โดยใช้ข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายแล้วแต่ความเหมาะสม โดยจะมีการปรับปรุงตามสมควร (หากจำเป็น) แต่ถ้าหากข้อแตกต่างนั้นไม่สามารถนำมาปรับเข้ากันได้ ให้นำข้อมูลของบริษัทมาใช้

17.3 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงว่า ในกรณีที่ได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop หรือ ผู้ที่กระทำการแทนผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop หลายครั้ง สำหรับธุรกรรมใดๆ ไม่ว่าผ่านทางการให้บริการหรือผ่านทางระบบการจ่ายเงินใดๆ ที่มีอยู่ ผู้ประกอบการร้านค้าจะต้องคืนเงินหรือเบิกเงินคืนให้กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop สำหรับจำนวนเงินที่มีการชำระเงินเกินจำนวน และผู้ประกอบการร้านค้าต้องชดใช้เงินเต็มจำนวนให้กับบริษัท และดำเนินการให้บริษัทได้รับการชดใช้ในกรณีที่ถูกเรียกร้องในเรื่องที่เกี่ยวกับการชำระเงินเกินจำนวนนั้น

18. คำรับรอง/การชดใช้ความเสียหาย/ความรับผิด

18.1 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะป้องกัน ชดใช้ และปกป้องมิให้บริษัท บริษัทแม่ บริษัทในเครือ และบริษัทย่อย เจ้าหน้าที่ กรรมการ ตัวแทน กิจการร่วมค้า ลูกจ้าง ผู้ผลิตของบริษัท ("ผู้ได้รับการชดใช้") ให้ปลอดจาก ข้อเรียกร้อง การเรียกร้อง ความเสียหาย ค่าใช้จ่าย หรือความรับผิด (รวมถึงค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย) ซึ่งผู้ได้รับการชดใช้นั้นอาจได้รับความเสียหายหรือต้องเสียหายอันเกี่ยวข้องกับ หรือเกิดจากกรณีดังต่อไปนี้

1) ผู้ประกอบการร้านค้า หรือลูกจ้างของผู้ประกอบการร้านค้า หรือตัวแทนของผู้ประกอบการร้านค้า ได้ทำผิดข้อตกลงและ/หรือนโยบาย

2) การยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทจากผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ผู้ออกบัตรเครดิต สถาบันการเงินอื่น หรือบุคคลภายนอกอื่น ที่เกิดจากการชำระเงินตามธุรกรรมในการขายสินค้าและบริการผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ไม่ว่าจะเป็นการที่บริษัทได้ดำเนินการและโอนจากบริษัทไปให้ผู้ประกอบการร้านค้า ผ่านการให้บริการไปแล้วหรือไม่ก็ตาม

3) ข้อเรียกร้องอื่นใดที่มีต่อบริษัท อันเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

4) การบังคับ หรือการพยายามบังคับตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า (ซึ่งรวมถึง การชดใช้หรือพยายามที่จะชดใช้จำนวนเงินใดๆ ที่เป็นหนี้บริษัทตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า)

5) การปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ประกอบการร้านค้า (รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับบุคคลภายนอกที่เสนอโดยบริษัท หรือได้รับคำสั่งจากบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์นี้)

6) ธุรกรรมใดๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ได้กระทำผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ของผู้ประกอบการร้านค้า (รวมถึงธุรกรรมซึ่งได้พบในภายหลังว่าเป็นการฉ้อโกง) หรือ

7) การดำเนินการอื่นใดๆ ระหว่างผู้ประกอบการร้านค้ากับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop เว้นแต่ ในแต่ละกรณี ถ้ามีสาเหตุมาจาก หรือเกิดจากความประมาทของบริษัทหรือการฝ่าฝืนข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าใดๆ ที่กระทำโดยบริษัท

18.2 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย ในกรณีที่มีผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัท ผู้ออกบัตร หรือบุคคลภายนอกคนใดก็ตาม บริษัทมีสิทธิที่จะพิจารณาทำความตกลงเพื่อยุติข้อเรียกร้องหรือพิจารณาดำเนินการอื่นใดตามที่เห็นควรฝ่ายเดียว

18.3 ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าเป็นห้างหุ้นส่วน หุ้นส่วนแต่ละคนจะต้องร่วมกันและแยกกันรับผิดตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า

18.4 การให้บริการเป็นการให้บริการในลักษณะ "ตามที่เป็นอยู่นั้น" และ "ตามที่มีอยู่" บริษัท และผู้ได้รับการชดใช้ไม่รับประกัน ไม่รับรอง หรือไม่ให้คำมั่นใดๆ (ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย) เกี่ยวกับแอปพลิเคชัน Max Me Shop การให้บริการ และเนื้อหาใดๆ ในเว็บไซต์ที่ให้บริการ การรับประกัน การรับรอง หรือคำมั่นทั้งหมด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะเพียง การรับประกัน การรับรอง คำมั่นใน ความถูกต้องเที่ยงตรง ความน่าเชื่อถือ สภาพทางการค้า ความพึงพอใจ คุณภาพ ความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ และการไม่ถูกละเมิดนั้น ได้ถูกยกเว้นไว้โดยชัดแจ้ง หรือถือเป็นการปฏิเสธข้อเรียกร้อง อย่างสูงสุดตามที่กฎหมายจะอนุญาตให้ทำได้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะเพิ่ม ตัด หรือเปลี่ยนแปลงระบบที่เกี่ยวข้องหรือหน้าที่ในการให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วน

18.5 เท่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้นั้น บริษัทและผู้ได้รับการชดใช้จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ ที่เป็นความสูญหายหรือความเสียหายโดยอ้อม ความเสียหายจากการผิดสัญญา ความเสียหายพิเศษ ความเสียหายเชิงลงโทษ ความเสียหายต่อเนื่อง ค่าเสียหายที่เป็นการลงโทษ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดแต่เพียง ความสูญเสียทางธุรกิจหรือโอกาสทางธุรกิจ ค่าความนิยม รายได้ กำไร ข้อมูล หรือประโยชน์ทางเศรษฐกิจอื่น) ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าอาจจะได้รับ (หรือบุคคลอื่นใดที่เรียกร้องภายใต้ชื่อของผู้ประกอบการร้านค้า หรือผ่านทางผู้ประกอบการร้านค้า) ซึ่งเป็นความสูญหายหรือเสียหายที่เกี่ยวข้องกับ หรือเกิดจากการเข้าถึง และ/หรือการใช้บริการ/เว็บไซต์ของการบริการ โดยผู้ประกอบการร้านค้า ไม่ว่าจะ (ก) เกิดจากสัญญา การละเมิด (รวมทั้งความประมาทเลินเล่อ) ไม่ว่าโดยลักษณะใดก็ตาม (ข) ความสูญหายหรือเสียหายนั้นสามารถคาดหมายได้ และ/หรือ (ค) บริษัทนั้นได้รับการแจ้งล่วงหน้าถึงความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าว

18.6 การปฏิเสธความรับผิดที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ และข้อยกเว้นตามข้อ 18.5 ข้างต้น จะบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ตามที่กฎหมายอนุญาต แต่จะไม่ใช้กับความรับผิดใด หรือการสูญหายหรือเสียหายที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังต่อไปนี้

1) ความตาย หรือการบาดเจ็บของบุคคล ที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของบริษัท

2) การฉ้อโกง หรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือ

3) ความรับผิดอื่นใดซึ่งไม่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย

18.7 ความรับผิดทั้งหมดของบริษัท ไม่ว่าในทางสัญญา หรือละเมิด (รวมถึงความประมาท) หรือกรณีอื่นใด และไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า หรือสัญญาหลักประกัน จะจำกัดความรับผิดไว้เพียงค่าบริการรวมที่บริษัทได้เก็บจากผู้ประกอบการร้านค้า สำหรับธุรกรรมหรือการบริการที่ได้ให้บริการ ภายในระยะเวลา 12 (สิบสอง) เดือน ก่อนวันที่เกิดความรับผิดใดๆ ที่เกี่ยวข้อง

19. ระยะเวลาและการบอกเลิกสัญญา

19.1 เงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า จะเริ่มต้น ณ วันที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ยื่นคำขอเพื่อสมัครขอใช้บริการ หรือข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า (แล้วแต่กรณี) และภายใต้บังคับการยกเลิกสัญญาก่อนกำหนดตามข้อ 12.4 และ ข้อ 19.2 ถึงข้อ 19.4 (รวมกัน) จะมีผลบังคับใช้จนกว่าที่จะมีการบอกเลิกสัญญาโดยคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่งล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือนปฏิทิน ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้ประกอบการร้านค้าไม่มีสิทธิที่จะส่งหนังสือบอกกล่าวเพื่อบอกเลิกสัญญาจนกว่าจะผ่านพ้นระยะเวลา 12 (สิบสอง) เดือน นับจากวันที่มีการทำธุรกรรมเป็นครั้งแรกตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า (เพื่อไม่ให้มีข้อสงสัย จะไม่รวมถึงการทำธุรกรรมใดๆ ที่มีวัตถุประสงค์เป็นการทดสอบ)

19.2 ในกรณีที่บริษัทได้แจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่า บริษัทไม่ยอมรับคำขอใช้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า ข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้าจะยกเลิกโดยมีผลทันทีเมื่อมีการแจ้ง บอกกล่าว

19.3 โดยไม่คำนึงถึงข้อ 19.1 ข้างต้น บริษัทมีสิทธิที่จะระงับข้อกำหนดทั้งหมดหรือบางส่วนในการให้บริการในทันที หรือยกเลิกเงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งหมดหรือบางส่วนในเรื่องบริการ ไม่ว่าในระยะเวลาใดโดยมีผลในทันที โดยการแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทราบ ในกรณีที่

1) ผู้ประกอบการร้านค้าได้ละเมิดข้อตกลงที่เป็นสาระสำคัญใดๆ ตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า

2) ผู้ประกอบการร้านค้าไม่ได้ชำระเงินจำนวนใดๆ ตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า เมื่อถึงกำหนดชำระแล้ว

3) บริษัทพิจารณาว่า (โดยบริษัทมีดุลยพินิจเด็ดขาด) ว่ามูลค่าทั้งหมดของการคืนเงิน และ/หรือการเรียกคืน (Chargeback) นั้นไม่สมเหตุผล

4) ผู้ประกอบการร้านค้าขายสินค้าและบริการซึ่งแตกต่างมากจากที่ได้แสดงไว้ในขั้นตอนที่ยื่น คำขอสมัครไว้กับบริษัท

5) ผู้ประกอบการร้านค้า นำเข้า ส่งออก ขาย หรือเกี่ยวข้องกับการค้าขายสินค้าและบริการ ที่ต้องห้าม หรือที่จำกัดการขาย

6) ผู้ประกอบการร้านค้าแสดงธุรกรรมสินค้าและบริการผ่าน "ร้านค้าทางอิเล็กทรอนิกส์" ต่อบริษัท ในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าไม่ได้มอบสินค้า บริการ หรืออุปกรณ์นั้นให้กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ที่เกี่ยวข้องซึ่งคาดหมายโดยมีเหตุอันควรว่าจะได้รับ

7) ผู้ประกอบการร้านค้ามีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือมีการดำเนินการชำระบัญชี เลิกกิจการ ล้มละลาย ถูกพิทักษ์ทรัพย์ มีการจัดสรรแบ่งแยกทรัพย์สิน หรือปิดบริษัท (หรือที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่กล่าวมาไม่ว่าจะเกิดขึ้นในเขตอำนาจศาลใดๆ ก็ตาม)

8) ผู้ประกอบการร้านค้ามีการทำหรือเสนอการดำเนินการใดๆ กับเจ้าหนี้ของผู้ประกอบการร้านค้าเป็นการทั่วไป

9) ในกรณีที่เกิดเหตุขึ้นกับผู้ประกอบการร้านค้า หรือมีเรื่องมาถึงบริษัท ซึ่งบริษัทมีสิทธิ โดยเด็ดขาดในการพิจารณาว่าอาจจะมีผลกระทบต่อความสามารถของผู้ประกอบการร้านค้า หรือกระทบต่อความยินดีที่จะปฏิบัติตามหน้าที่หรือความรับผิดใดๆ หรือทั้งหมดของผู้ประกอบการร้านค้าตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า

10) มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในสถานการณ์ของผู้ประกอบการร้านค้า (รวมถึงการลดลง หรือเปลี่ยนแปลงสถานะทางการเงินของผู้ประกอบการร้านค้า) หรือลักษณะธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้า หรือในสินค้าและบริการที่ ผู้ประกอบการร้านค้าได้จัดให้ไว้กับผู้ใช้แรบบิท-ไลน์เพย์ ซึ่งบริษัทมีสิทธิใช้ดุลยพินิจโดยเด็ดขาดในการพิจารณาว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อการให้บริการต่อไปของบริษัทหรือต่อความพร้อมของบริษัทในการให้ความสะดวกกับผู้ประกอบการร้านค้า

11) ผู้ประกอบการร้านค้าหยุดประกอบกิจการ หรือถูกเพิกถอนทางทะเบียนเป็นบริษัทร้าง

12) บริษัทมีดุลยพินิจโดยเด็ดขาดในการพิจารณาว่าความสัมพันธ์กับธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้านั้นทำให้บริษัทมีความเสี่ยงหรือความรับผิดเพิ่มขึ้น

13) ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการร้านค้า หรือมีเหตุการณ์ใดมาถึงบริษัทซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการร้านค้า หรือเกิดขึ้นมาจากหรือเป็นเหตุต่อเนื่องมาจากธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้า หรือดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการร้านค้า (รวมถึงวิธีการทำการค้าและกิจกรรมส่วนบุคคล) หรือในกรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าทำธุรกิจการค้าใดหรือมีกิจกรรมส่วนบุคคล ซึ่งบริษัทได้ใช้ดุลยพินิจเด็ดขาดในการพิจารณาแล้วว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง หรืออาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท เป็นอันตรายต่อธุรกิจของบริษัท หรืออาจจะเป็นการฉ้อโกงหรือการกระทำความผิดอาญาฐานอื่น หรือต้องสงสัยว่าเป็นการฉ้อโกงหรือการกระทำความผิดทางอาญาฐานอื่น

14) ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับบุคคล บริษัท ห้างร้าน องค์กรที่ยังไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้ง (แต่ละ "บุคคล" และเรียกรวมว่า "บุคคลหลายคน") หรือกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำการตามข้อตกลง หรือ ตามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (ไม่ว่าจะเป็นทางกา รหรือไม่เป็นทางการ) และมีผลเป็นการควบคุมผู้ประกอบการร้านค้า

15) มีการข่มขู่ว่าจะมีการเรียกร้องใดๆ หรือกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้า ต่อผู้ประกอบการร้านค้า หรือโดยผู้ประกอบการร้านค้าหรือบริษัท

16) มีการเรียกร้องใดๆ ต่อบริษัท โดยบุคคลภายนอกที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับผู้ประกอบการร้านค้า

17) บริษัทได้รับคำร้องขอหรือคำสั่งจากบริษัทบัตรเครดิต (ตัวอย่างเช่น VISA หรือ MasterCard เป็นต้น) ผู้ออกบัตรเครดิต ผู้ได้รับบัตร ธนาคารอื่น หรือสถาบันการเงินอื่น ให้บริษัทดำเนินการใดๆ ดังกล่าว

18) ผู้ประกอบการร้านค้าได้ดำเนินการทำการค้าซึ่งบริษัทไม่ยินยอมด้วย

19) บริษัท บริษัทในเครือ หรือกลุ่มบริษัทมีสิทธิในการบอกเลิกสัญญาใดๆ กับผู้ประกอบการร้านค้าหรือบริษัทในเครือใดๆ ของผู้ประกอบการร้านค้า

20) ผู้ประกอบการร้านค้าใช้เอกสารปลอม หรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จในการลงทะเบียนสมัครใช้บริการ รวมถึงการแจ้งข้อมูล หรือแสดงเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือแสดงเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทร้องขอ จนกว่าบริษัทจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน หรือ

21) ผู้ประกอบการร้านค้า หรือกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการ เป็นบุคคลที่ราชการ หรือหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัด ทรัพย์สิน หรือเป็นบุคคลที่ถูกกำหนด หรือถูกกล่าวหา หรือถูกสงสัยว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย หรือ

22) บริษัทมีเหตุสงสัยว่า ผู้ประกอบการร้านค้า หรือกรรมการรผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการได้กระทำความผิด หรือพยายามกระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนด หรือมีพฤติการณ์อันน่าเชื่อว่ามีการใช้บริการหรือการทำรายการในลักษณะ Robot หรือกระทำการใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัท หรือบุคคลอื่นใด หรือ

23) กรณีที่ผู้ประกอบการร้านค้าได้ยกเลิกการใช้บริการหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้ในการเปิดบัญชี เมื่อบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลการยกเลิกการใช้บริการหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ดังกล่าว หรือ

24) กรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการของผู้ประกอบการร้านค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาตินั้น มีสัญชาติ ถิ่นที่อยู่ และอาชีพบางประเภทตามที่บริษัทกำหนดไว้ว่าเป็นกรณีที่ต้องห้ามมิให้ใช้บริการ หรือ

25) ผู้ประกอบการร้านค้ามิได้มีความเคลื่อนไหวในทางบัญชี หรือมิได้เข้าใช้บริการเป็นระยะเวลาติดต่อกันเกินกว่า 1 (หนึ่ง) ปี นับแต่การเข้าใช้บริการครั้งล่าสุด หรือ

26) หนังสือเดินทาง หรือเอกสารสำคัญของกรรมการผู้มีอำนาจ หรือเจ้าของกิจการของผู้ประกอบการร้านค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้หมดอายุลงแล้ว และมิได้มีการต่ออายุให้ถูกต้องตามกฎหมาย

27) เงินในบัญชีของผู้ประกอบการร้านค้ามีไม่เพียงพอให้บริษัทหักค่าธรรมเนียมตามจำนวนที่บริษัทเรียกเก็บ หรือเพื่อการชำระเงินใดๆ ทุกประเภทตามข้อตกลง

19.4 ผู้ประกอบการร้านค้าตกลงที่จะรับดำเนินการตามธุรกรรมและจัดส่งสินค้าและบริการให้แก่ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน Max Me Shop ต่อไปตามที่กำหนดในเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้จนกว่าจะถึงวันที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง

20. ผลของการบอกเลิกสัญญา

20.1 เมื่อมีการบอกเลิกเงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า สิทธิและหน้าที่ทั้งหมดของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสิ้นสุดลงโดยมีผลในทันที เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้

1) ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขใดในข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้านี้ ได้ระบุไว้โดยชัดแจ้ง หรือโดยปริยายว่า ให้มีผลบังคับต่อไปหลังจากสัญญาสิ้นสุด (เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย และไม่ถือเป็นข้อจำกัด ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขดังกล่าวให้รวมถึง ข้อ 10.5, ข้อ 11, ข้อ 12, ข้อ 14 ถึงข้อ 21.) และ

2) การบอกเลิกสัญญาจะไม่มีกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ที่เกิดขึ้นมาก่อนและมีอยู่แล้วของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้านี้ ณ วันที่สัญญาสิ้นสุด

20.2 เมื่อมีการบอกเลิกสัญญา หรือไม่ว่าในระยะเวลาใดๆ ภายหลังจากที่เงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้านี้สิ้นสุดลง ผู้ประกอบการร้านค้าจะชำระเงินทั้งหมดที่ค้างชำระไว้กับบริษัทตามข้อกำหนดของผู้ประกอบการร้านค้านี้ในทันที และเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย บริษัทยังคงมีสิทธิที่จะยึดหน่วงการจ่ายเงินตาม ข้อ 6.4, ข้อ 10.3 ถึงข้อ 10.5 และเรียกให้ชดใช้จำนวนเงินดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในข้อ 7. และข้อ 10.5

21. เงื่อนไขทั่วไป

21. การเข้าทำ และปฏิบัติตามเงื่อนไขในการให้บริการนี้ จะเป็นการยกเลิกคำรับรองอื่นๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้าทั้งหมด ซึ่งรวมถึงความเข้าใจ และข้อตกลงอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเงื่อนไขการให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้า ซึ่งได้ทำขึ้นระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่ว่าโดยวาจา หรือลายลักษณ์อักษรก่อนวันทำข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไข การให้บริการของผู้ประกอบการร้านค้านี้ และให้นำเงื่อนไขการให้บริการนี้มาบังคับใช้แทน

อนึ่ง ไม่มีข้อความใดในเงื่อนไขการให้บริการนี้ที่ระบุให้มีการยกเว้นความรับผิดในเรื่องของการฉ้อโกง หรือการกระทำใดๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย

21.2 บริษัทมีสิทธิแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อตกลงและเงื่อนไขฉบับนี้ อัตราค่าธรรมเนียม และรายละเอียดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ รวมทั้ง ข้อตกลงและเงื่อนไขใดๆ ที่เกี่ยวข้องได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า

21.3 หากข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใดๆ ของเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้เป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายใดๆ ให้ถือว่าข้อกำหนด หรือเงื่อนไขอื่นๆ ของเงื่อนไขการให้บริการที่สมบูรณ์แยกจากส่วนที่เป็นโมฆะ หรือ ไม่สมบูรณ์ และให้มีผลใช้บังคับได้ต่อไป

21.4 บริษัทสามารถโอนสิทธิ และหน้าที่ตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ให้กับบุคคลอื่นใดก็ได้ โดยบริษัทจะแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้ารับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า

อย่างไรก็ดี เนื่องจากสิทธิและหน้าที่ทั้งหมดของผู้ประกอบการร้านค้าตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ถือเป็นสิทธิ และหน้าที่เฉพาะตัวของผู้ประกอบการร้านค้า ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านค้าจึงไม่สามารถจะโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่ของตนให้กับบุคคลอื่นได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากบริษัทแล้วเท่านั้น

21.5 ในกรณีที่บริษัทไม่บังคับใช้ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใดของเงื่อนไขการให้บริการนี้ จะไม่กระทบถึงสิทธิของบริษัทในการบังคับใช้ข้อกำหนด หรือเงื่อนไขนั้นในภายหลัง และการสละสิทธิในการกระทำผิดข้อกำหนด หรือเงื่อนไขใดของผู้ใช้บริการ จะไม่ถือเป็นการสละสิทธิในการกระทำผิดข้อกำหนด หรือเงื่อนไขดังกล่าวครั้งต่อไป หรือการสละสิทธิในข้อกำหนด หรือเงื่อนไขอื่นใด

21.6 การแปลเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาใดก็ตาม มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกของผู้ใช้บริการเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใดๆ ที่จะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการให้บริการ ในกรณีที่มีข้อความขัดแย้งกันระหว่างฉบับภาษาไทยและภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย ให้ยึดข้อความตามภาษาไทย

21.7 เงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ให้ใช้บังคับและอยู่ภายใต้กฎหมายไทยและให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอำนาจ ในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงบทบัญญัติว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย

21.8 หากผู้ประกอบการร้านค้ามีข้อสงสัย หรือมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อประสานงานมายังบริษัท และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังต่อไปนี้

บริษัท แมกซ์ มี คอร์ป จํากัด
ที่อยู่ : 90 อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ เอ ชั้นที่ 33 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
อีเมล : [email protected]
ขั้นตอนการดำเนินการ
สมัครด้วย
เบอร์โทรศัพท์มือถือ
เชื่อมต่อ แมกซ์มี วอลเล็ท
เพื่อรับชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด
กรอกข้อมูลร้านค้า
พร้อมอัปโหลดรูปภาพ
และเอกสารทางการเงิน

โดยกดปุ่ม "ตกลง เพื่อเริ่มดำเนินการ" เพื่อยอมรับ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขรวมทั้งรับทราบนโยบายคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคล

ตกลง เพื่อเริ่มดำเนินการ

ขั้นตอนการดำเนินการ
สมัครด้วย
เบอร์โทรศัพท์มือถือ
กรอกข้อมูลร้านค้า
พร้อมอัปโหลดรูปภาพ
และเอกสารทางการเงิน
การให้ความยินยอม

ลงทะเบียน

ลงทะเบียนด้วยแมกซ์มี วอลเล็ทของคุณ
เพื่อเชื่อมต่อกับแมกซ์มี ช็อป

เบอร์โทรศัพท์มือถือ
พิน แมกซ์ มี 6 หลัก (Max Me Pin)
ไม่มีบัญชีแมกซ์มี วอลเล็ท?
สมัครแมกซ์มีวอลเล็ท

เชื่อมต่อแมกซ์มี วอลเล็ท

ยืนยันด้วย OTP

กรอก OTP โค้ดที่ถูกส่งไปยัง

081-XXX-56XX

REF: OMRS
ส่ง OTP อีกครั้ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
0
บันทึก

ข้อมูลร้านค้า

(1/3)

คุณสามารถบันทึกข้อมูลไว้แล้วกลับมา
กรอกข้อมูลต่อได้

กรุณาระบุชื่อร้านค้าหรือร้านค้าออนไลน์
กรุณาระบุชื่อร้านค้าหรือร้านค้าออนไลน์
pin-icon
shop-info-page1
ถัดไป
บันทึก

ข้อมูลร้านค้า

(2/3)

คุณสามารถบันทึกข้อมูลไว้แล้วกลับมา
กรอกข้อมูลต่อได้

วันและเวลาเปิด-ปิดร้านค้า *
(สำหรับโปรโมทในแอปแมกซ์มี)
สามารถใช้รูปหน้าร้านหรือหน้าเพจของร้านค้าออนไลน์ได้
upload1 ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB
(สูงสุด 10 รูป)
upload1 ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB
ลบรูปภาพ
shop-info-page1
ถัดไป
บันทึก

ข้อมูลร้านค้า

(3/3)

คุณสามารถบันทึกข้อมูลไว้แล้วกลับมา
กรอกข้อมูลต่อได้

สำหรับรับ SMS และ OTP
(หน้าที่ระบุชื่อและเลขบัญชี)
upload1 ขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB
shop-info-page1
ถัดไป

ข้อมูลร้านค้า

ชื่อร้านค้า(ไทย) -
ชื่อร้านค้า(อังกฤษ) -
ที่อยู่ร้านค้า -
แขวง/ตำบล -
เขต/อำเภอ -
จังหวัด -
รหัสไปรษณีย์ -
เบอร์โทรร้านค้า -
ประเภทร้านค้า -
ประเภทสินค้า -
เวลาเปิด-ปิดร้านค้า -
จุดเด่นของร้านค้า -
บุคคลที่ติดต่อได้ -
อีเมล -
เบอร์โทรศัพท์ -
เว็บไซต์ -
ยืนยันลงทะเบียน
ลงทะเบียนสำเร็จ!
ข้อมูลร้านค้าของคุณ อยู่ในระหว่างการพิจารณา
ระบบจะอนุมัติร้านค้าภายใน 7 วันทำการ
หากไม่ได้รับผลการอนุมัติ
กรุณาติดต่อ แมกซ์มี คอลเซ็นเตอร์ 1614 กด 3
กรุณาไม่ส่งข้อมูลซ้ำ เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ
ตกลง
ลงทะเบียนสำเร็จ!
ข้อมูลร้านค้าของคุณ ผ่านการพิจารณาแล้ว
กรุณาเข้าสู่ระบบ
หากมีข้อสงสับกรุณาติดต่อ แมกซ์มี คอลเซ็นเตอร์ 1614 กด 3
ตกลง

ลงทะเบียน

นิติบุคคล/บริษัท

เบอร์โทรศัพท์มือถือ

ลงทะเบียน